ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างคืออะไร
“ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง” หรือที่นิยมเรียกกันว่า “ภาษีที่ดิน” จัดเก็บเป็นรายปีตาม มูลค่าประเมินทุนทรัพย์ ของที่ดิน หรือสิ่งปลูกสร้าง (เช่น บ้าน อาคาร ห้องชุด) โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นผู้ประเมิน และจัดเก็บภาษี ไม่ใช่กรมสรรพากร ภาษีฉบับนี้เริ่มใช้จริงตั้งแต่ปีภาษี 2563 และคิดภาษีแบบ “ขั้นบันได” ตามมูลค่าทรัพย์และประเภทการใช้ประโยชน์ การประเมินมูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะใช้เกณฑ์ที่ออกโดยกรมธนารักษ์และประกาศขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีขั้นตอนและรายละเอียดเฉพาะ (วิธีการประเมินราคาที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง)
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มีกี่ประเภท
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง สามารถจำแนกตาม “การใช้ประโยชน์” ของทรัพย์สินได้ 4 ประเภทหลัก เพื่อให้การจัดเก็บเป็นธรรมและสะท้อนการใช้ทรัพย์จริงในแต่ละพื้นที่ ดังนี้ประเภทที่ 1 : ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย
ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย หมายถึงที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์สำหรับเป็นที่อยู่อาศัยของเจ้าของ เช่น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม หรือคอนโดมิเนียม ซึ่งผู้ถือครองจะต้องมี เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ และ ทะเบียนบ้าน เพื่อยืนยันการเป็นเจ้าของและการอยู่อาศัยจริง แม้จะเป็นบ้านหลังอื่น ๆ ที่เจ้าของมีชื่ออยู่ใน โฉนดที่ดิน แต่ไม่มีชื่อใน ทะเบียนบ้าน ก็ยังถือว่าอยู่ในกลุ่ม “เพื่อการอยู่อาศัย” และต้องเสียภาษีตามเกณฑ์นี้เช่นเดียวกัน การถือครองในกลุ่มนี้แบ่งย่อยออกได้ 3 ลักษณะ ได้แก่- บุคคลธรรมดาผู้เป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างหลังเดียวฃ
- กรณีที่บุคคลธรรมดาผู้เป็นเจ้าของเฉพาะสิ่งปลูกสร้างหลังเดียว
- กรณีที่บุคคลธรรมดาผู้เป็นเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง 2 หลังขึ้นไป
| มูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง | อัตราภาษีต่อปี |
| 0-50 ล้านบาท | ได้รับการยกเว้นภาษี |
| 50-75 ล้านบาท | 0.03% |
| 75-100 ล้านบาท | 0.05% |
| 100 ล้านบาทขึ้นไป | 0.1% |
| มูลค่าสิ่งปลูกสร้าง | อัตราภาษี |
| 0-10 ล้านบาท | ได้รับการยกเว้นภาษี |
| 10-50 ล้านบาท | 0.02% |
| 50-75 ล้านบาท | 0.03% |
| 75-100 ล้านบาท | 0.05% |
| 100 ล้านบาทขึ้นไป | 0.1% |
| มูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง | อัตราภาษีต่อปี |
| 0-50 ล้านบาท | 0.02% |
| 50-75 ล้านบาท | 0.03% |
| 75-100 ล้านบาท | 0.05% |
| 100 ล้านบาทขึ้นไป | 0.1% |
ประเภทที่ 2 : ที่ดินเพื่อการพาณิชยกรรม
ครอบคลุมที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ทำธุรกิจทุกประเภท เช่น อาคารพาณิชย์ สำนักงาน โรงแรม หรือสถานประกอบการเชิงพาณิชย์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล เจ้าของทรัพย์ต้องเสียภาษีตั้งแต่บาทแรก ไม่มีการยกเว้นวงเงิน อัตราภาษีเริ่มประมาณ 0.3% และเพิ่มตามขั้นบันไดสูงสุด 0.7% ขึ้นอยู่กับมูลค่าทุนทรัพย์และประกาศของท้องถิ่น หากเป็นโครงการขนาดใหญ่ เช่น ศูนย์การค้า หรือโรงแรม อาจมีการประเมินมูลค่าแยกเป็นส่วนพื้นที่ค้าปลีก พื้นที่จอดรถ หรือพื้นที่สำนักงาน แล้วคำนวณภาษีตามสัดส่วนการใช้ประโยชน์จริง โดยมีอัตราเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ดังนี้| มูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง | อัตราภาษีต่อปี |
| 0-50 ล้านบาท | 0.3% |
| 50-200 ล้านบาท | 0.4% |
| 200-1,000 ล้านบาท | 0.5% |
| 1,000-5,000 ล้านบาท | 0.6% |
| 5,000 ล้านบาทขึ้นไป | 0.7% |
ประเภทที่ 3 : ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม
ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม หมายถึงการใช้ประโยชน์ของที่ดินเพื่อกิจกรรมทางการเกษตรในทุกลักษณะ ไม่ว่าจะเป็นการทำไร่ ทำสวน ทำนา การเลี้ยงปศุสัตว์ การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การทำสวนป่า การทำนาเกลือ หรือแม้แต่การเพาะเลี้ยงแมลงเศรษฐกิจ ทั้งหมดนี้ต้องมีวัตถุประสงค์เพื่อการบริโภค การจำหน่าย หรือการใช้ผลผลิตภายในฟาร์ม ผู้ถือครองที่ดินต้องมีเอกสารแสดงการทำเกษตรกรรมที่ชัดเจน 3.1 บุคคลธรรมดาเป็นเจ้าของที่ดินเพื่อการเกษตร มีอัตราเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ดังนี้| มูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง | อัตราภาษีต่อปี |
| 0-50 ล้านบาท | ได้รับการยกเว้นภาษี |
| 50-125 ล้านบาท | 0.01% |
| 125-150 ล้านบาท | 0.03% |
| 150-550 ล้านบาท | 0.05% |
| 550-1,050 ล้านบาท | 0.07% |
| 1,050 ล้านบาทขึ้นไป | 0.1% |
| มูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง | อัตราภาษีต่อปี |
| 0-75 ล้านบาท | 0.01% |
| 75-100 ล้านบาท | 0.03% |
| 100-500 ล้านบาท | 0.05% |
| 500-1,000 ล้านบาท | 0.07% |
| 1,000 ล้านบาทขึ้นไป | 0.1% |
ประเภทที่ 4 : ที่ดินรกร้างหรือไม่ได้ใช้ประโยชน์
เป็นที่ดินที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง หรือมีสิ่งปลูกสร้างแต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ เช่น ที่ดินว่างเปล่าที่ไม่ได้ทำเกษตรหรือไม่ได้อยู่อาศัย ปล่อยให้ที่ดินว่างตลอดทั้งปีก็ต้องเสียภาษีเช่นกัน โดยมีอัตราเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ดังนี้| มูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง | อัตราภาษีต่อปี |
| 0-50 ล้านบาท | 0.3% |
| 50-200 ล้านบาท | 0.4% |
| 200-1,000 ล้านบาท | 0.5% |
| 1,000-5,000 ล้านบาท | 0.6% |
| 5,000 ล้านบาทขึ้นไป | 0.7% |
ตัวอย่างการคำนวณภาษีที่ดิน
การคำนวณภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้ประโยชน์ของทรัพย์สิน แต่ละประเภทมีสูตรเฉพาะในการคำนวณ ไม่ว่าจะเป็นที่ดินทำการเกษตร บ้านพร้อมสิ่งปลูกสร้าง หรือห้องชุดในคอนโด เพื่อให้ชำระภาษีได้ถูกต้องควรเข้าใจสูตรพื้นฐานดังนี้- สูตรการคำนวณภาษีที่ดินเพื่อการเกษตร มูลค่าที่ดิน × อัตราภาษีที่ดิน = ภาษีที่ต้องจ่าย
- สูตรการคำนวณภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (มูลค่าที่ดิน + มูลค่าสิ่งปลูกสร้าง) × อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องจ่าย
- สูตรการคำนวณภาษีสำหรับห้องชุด (คอนโด) มูลค่าห้องชุด (มูลค่าสิ่งปลูกสร้าง) × อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องจ่าย
ตัวอย่างการคำนวณภาษีแต่ละประเภท
- ที่ดินเพื่อการเกษตร บริษัท “ฟาร์ม A” ถือครองที่ดินปลูกผลไม้ มูลค่า 70 ล้านบาท อัตราภาษีสำหรับนิติบุคคลในช่วง 50–75 ล้านบาท = 0.025% คำนวณภาษี : 70,000,000 × 0.00025 = 17,500 บาท ดังนั้น ภาษีที่ต้องชำระคือ 17,500 บาทต่อปี
- ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง (บ้านเดี่ยว) คุณABC มีบ้านพร้อมที่ดิน มูลค่าที่ดิน 6 ล้านบาท สิ่งปลูกสร้าง 4 ล้านบาท รวม 10 ล้านบาท อัตราภาษีบ้านรอง = 0.02% คำนวณภาษี: (6,000,000 + 4,000,000) × 0.0002 = 2,000 บาท ภาษีที่ต้องจ่ายคือ 2,000 บาทต่อปี
- ห้องชุดคอนโด คุณAB ครอบครองคอนโดปล่อยเช่า มูลค่าประเมิน 4,500,000 บาท อัตราภาษีบ้านรอง = 0.02% คำนวณภาษี: 4,500,000 × 0.0002 = 900 บาท ภาษีที่ต้องชำระคือ 900 บาทต่อปี
ผู้มีหน้าที่เสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
กฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 กำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า ผู้ครอบครองหรือมีสิทธิในที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จะเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษี ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล โดยสามารถจำแนกได้ดังนี้1. เจ้าของกรรมสิทธิ์ตามกฎหมาย
- บุคคลธรรมดา หรือ นิติบุคคล ที่มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินหรือเอกสารสิทธิ์อื่น ๆ (เช่น น.ส.3 ก.)
- สิ่งปลูกสร้างที่ตั้งอยู่บนที่ดิน เช่น บ้าน อาคาร หากมีการโอนกรรมสิทธิ์ ต้องดูว่า ใครเป็นเจ้าของ ณ วันที่ 1 มกราคม ของปีภาษีนั้น ผู้นั้นต้องรับผิดชอบชำระภาษีตลอดทั้งปี แม้จะขายทรัพย์สินไปในระหว่างปี
2. ผู้ครอบครองหรือทำประโยชน์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างของรัฐ
- บุคคลหรือหน่วยงานเอกชนที่ เช่าหรือครอบครองที่ดินของรัฐ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นเพื่ออยู่อาศัย เกษตรกรรม หรือพาณิชยกรรม
- แม้จะไม่ได้ถือกรรมสิทธิ์ แต่เมื่อมีสิทธิครอบครองและใช้ประโยชน์ ต้องเป็นผู้ชำระภาษีแทนรัฐในส่วนของพื้นที่ที่ครอบครองอยู่
- วันที่ 1 มกราคมของทุกปี คือวันตัดสิทธิ์สำคัญ ใครเป็นเจ้าของในวันนั้น จะต้องรับผิดชอบภาษีทั้งปี ไม่ว่าภายหลังจะขายหรือโอนให้ผู้อื่น
- กรณีมีเจ้าของร่วม ทุกคนที่มีชื่ออยู่ในโฉนดต้องร่วมกันรับผิดชอบภาษีตามสัดส่วนกรรมสิทธิ์
- กรณีเจ้าของที่ดินและเจ้าของสิ่งปลูกสร้างเป็นคนละคน (เช่น เช่าที่ดินแล้วสร้างบ้าน) > เจ้าของที่ดิน ชำระภาษีเฉพาะที่ดิน > เจ้าของสิ่งปลูกสร้าง ชำระภาษีเฉพาะสิ่งปลูกสร้างของตน
การชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างต้องจ่ายเมื่อไหร่ และจ่ายที่ไหน
การชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นหน้าที่ที่เจ้าของกรรมสิทธิ์ต้องปฏิบัติทุกปี โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะเป็นผู้จัดเก็บและกำหนดขั้นตอนการชำระเงินอย่างเป็นทางการ ดังรายละเอียดต่อไปนี้ กำหนดเวลาชำระภาษี- แจ้งประเมินภาษี หน่วยงานท้องถิ่น เช่น สำนักงานเขต เทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จะจัดส่งหนังสือแจ้งประเมินภาษี ภายในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี
- กำหนดชำระปกติ ต้องชำระภาษี ภายในวันที่ 30 เมษายน ของปีภาษีนั้น
- ผ่อนชำระ (กรณียอดภาษีตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป) สามารถแบ่งจ่ายได้ สูงสุด 3 งวด เป็นระยะเวลา 3 เดือน
- กรุงเทพมหานคร > ชำระที่ สำนักงานเขต
- เมืองพัทยา > ชำระที่ ศาลาว่าการเมืองพัทยา
- เทศบาล > ชำระที่ สำนักงานเทศบาล ในพื้นที่
- อบต. > ชำระที่ สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบล
ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับการยกเว้นและลดหย่อนภาษี
กฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างกำหนดให้ทรัพย์สินบางประเภทได้รับ สิทธิยกเว้น หรือ ลดหย่อนภาษี เพื่อสนับสนุนกิจการที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ สิ่งแวดล้อม และการพัฒนาเศรษฐกิจ ทั้งนี้การประกาศลดหย่อนจะมีการปรับเปลี่ยนตามนโยบายของรัฐและสถานการณ์ในแต่ละปี ได้มีการประกาศปรับลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพิ่มเติม ได้แก่1.โรงผลิตน้ำประปา
ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็น โรงผลิตน้ำประปา รวมถึงพื้นที่และสิ่งปลูกสร้างที่เกี่ยวข้องกับการผลิตน้ำประปา ได้รับ สิทธิลดภาษี 50% เพื่อสนับสนุนการให้บริการสาธารณูปโภคพื้นฐานแก่ประชาชน และช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานของหน่วยงานที่ให้บริการน้ำประปา2.พื้นที่สีเขียวเพื่อสิ่งแวดล้อม
ที่ดินที่มี พืชพรรณปกคลุมเป็นองค์ประกอบหลัก และใช้ประโยชน์เพื่อสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ หรือการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เช่น สวนสาธารณะ พื้นที่ป่าชุมชน หรือพื้นที่กันชนทางธรรมชาติ ได้รับ การยกเว้นภาษีเต็มจำนวน เพื่อเป็นแรงจูงใจให้เจ้าของที่ดินรักษาพื้นที่สีเขียว3.ทางรถไฟฟ้า
เพื่อสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมสาธารณะ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นทางรถไฟหรือทางรถไฟฟ้า ได้รับ การยกเว้นภาษี ครอบคลุมถึง- ห้องอุปกรณ์อาณัติสัญญาณภายในสถานี
- ห้องควบคุมระบบบังคับสัมพันธ์
- ห้องอุปกรณ์สื่อสาร
- ชานชาลาภายในสถานีเฉพาะพื้นที่ที่ผู้โดยสารขึ้น–ลง
ค่าปรับและเบี้ยปรับกรณีชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างล่าช้า
การชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ต้องทำภายในกำหนดเวลาที่กฎหมายระบุ หากเลยกำหนดจะมีทั้ง เบี้ยปรับ, เงินเพิ่ม และ โทษทางอาญา เพื่อบังคับใช้ให้เจ้าของทรัพย์สินปฏิบัติตาม ดังนี้1. เบี้ยปรับ
- 10% ของภาษีที่ค้างชำระ กรณีจ่ายล่าช้าหลังครบกำหนด แต่ จ่ายก่อน ได้รับหนังสือเตือนจากหน่วยงานท้องถิ่น
- 20% ของภาษีที่ค้างชำระ กรณีจ่ายหลังครบกำหนด และ จ่ายภายในเวลาที่ระบุ ในหนังสือเตือน
- 40% ของภาษีที่ค้างชำระ กรณีเพิกเฉย ไม่ชำระแม้ได้รับหนังสือเตือน และล่าช้ากว่าระยะเวลาที่กำหนด
2. เงินเพิ่ม
นอกจากเบี้ยปรับแล้ว จะมี เงินเพิ่ม คิดเป็น ดอกเบี้ย 1% ต่อเดือน ของยอดภาษีที่ค้างชำระ- นับตั้งแต่วันถัดจากวันครบกำหนดชำระ
- ไม่คิดดอกเบี้ยทบต้น หมายความว่าไม่บวกเพิ่มจากดอกเบี้ยค้างเดิม
3. โทษทางอาญา
กรณีผู้เสียภาษี หลีกเลี่ยงหรือจงใจไม่ชำระ อาจมีบทลงโทษทางอาญาตามกฎหมาย ได้แก่- จำคุกสูงสุด 2 ปี
- ปรับไม่เกิน 40,000 บาท
Q&A: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ “อัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง”
ใครคือผู้มีหน้าที่เสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง?
เจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างทุกคน (ดูจากโฉนดหรือเอกสารสิทธิ์) รวมถึงผู้ครอบครองหรือใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล หากมีชื่อเป็นเจ้าของในวันที่ 1 มกราคมของปีภาษีนั้น จะต้องเสียภาษีตลอดทั้งปี
ต้องยื่นแบบภาษีเองหรือไม่?
ไม่ต้องยื่นเอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะเป็นผู้จัดส่ง “หนังสือประเมินภาษี” ให้เจ้าของทรัพย์สินทุกปี ภายในเดือนกุมภาพันธ์
หากชำระล่าช้าจะเกิดอะไรขึ้น
จะถูกเรียกเก็บเบี้ยปรับสูงสุด 40% ของภาษีที่ค้างชำระ และมีเงินเพิ่ม 1% ต่อเดือน รวมถึงโทษทางอาญาในกรณีเจตนาหลีกเลี่ยง
ทรัพย์สินแบบใดได้รับการยกเว้นหรือลดหย่อนภาษี?
ที่ดินเพื่อกิจการสาธารณูปโภค (โรงผลิตน้ำประปา), พื้นที่สีเขียวเพื่อสิ่งแวดล้อม, ทางรถไฟหรือทางรถไฟฟ้า รวมถึงที่ดินเพื่อการเกษตรของบุคคลธรรมดาที่มีมูลค่าไม่เกินเกณฑ์
บ้านหลังแรกต้องเสียภาษีหรือไม่?
บ้านหลังแรกที่เจ้าของมีชื่อในทะเบียนบ้านและมูลค่ารวมไม่เกินเกณฑ์ (เช่น 50 ล้านบาท) จะได้รับการยกเว้นภาษี แต่ถ้ามีหลายหลัง หลังที่สองขึ้นไปต้องเสียภาษีเต็มอัตรา
จ่ายภาษีเกิน สามารถขอเงินคืนได้หรือไม่?
ได้ หากผู้เสียภาษีชำระเงินเกินกว่ายอดที่ระบุในใบประเมิน สามารถยื่นคำร้องขอคืนเงินต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่รับชำระภาษีนั้น ภายใน 3 ปีนับจากวันที่ชำระเกิน โดยต้องแนบหลักฐานการชำระเงินและใบประเมินภาษีเพื่อประกอบการพิจารณา
ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างมีเจ้าของร่วม ต้องจ่ายภาษีอย่างไร?
หากมีชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์หลายคน ทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบภาษีร่วมกัน โดยใบประเมินจะออกเป็น ยอดรวมเดียว ไม่ได้แยกตามสัดส่วนการถือครอง เจ้าของทั้งหมดสามารถตกลงกันเองว่าจะหารกันจ่ายอย่างไร แต่เพียง ให้ยอดรวมครบตามที่แจ้ง และมอบหมายให้ผู้ถือกรรมสิทธิ์คนใดคนหนึ่งเป็นผู้ดำเนินการชำระก็ถือว่าครบถ้วนตามกฎหมาย



