พ.ร.บ.ขายฝาก คือกฎหมายที่กำหนดหลักเกณฑ์การ “ขายฝาก” ทรัพย์สิน เช่น บ้าน ที่ดิน หรือคอนโดเพื่อแลกเงินทุน โดยผู้ขายยังคงสิทธิไถ่ถอนภายในเวลาที่กำหนด กฎหมายนี้คุ้มครองทั้งผู้ขายฝากและผู้ซื้อฝาก ให้การทำสัญญาเป็นธรรมและปลอดภัย
พ.ร.บ.ขายฝาก คืออะไร ?
พ.ร.บ.ขายฝาก หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองประชาชนในการทำสัญญาขายฝากที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหรือที่อยู่อาศัย พ.ศ. 2562 กฎหมายฉบับนี้ออกมาเพื่อคุ้มครองผู้ขายฝากที่เป็นบุคคลธรรมดา ให้การทำสัญญาเป็นธรรมและลดการเอาเปรียบ โดยกำหนดให้สัญญาขายฝากต้องจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานที่ดิน กำหนดระยะเวลาไถ่ถอนอย่างน้อย 1 ปี และไม่เกิน 10 ปี พร้อมจำกัดดอกเบี้ยหรือค่าตอบแทนสูงสุดไม่เกิน 15% ต่อปี เพื่อป้องกันการสูญเสียสิทธิในที่ดินหรือที่อยู่อาศัยเกินควรวัตถุประสงค์ของ พ.ร.บ.ขายฝาก
พระราชบัญญัติคุ้มครองประชาชนในการทำสัญญาขายฝาก พ.ศ. 2562 ถูกตราขึ้นเพื่อสร้างความสมดุลระหว่าง ผู้ขายฝาก และ ผู้ซื้อฝาก ให้การทำสัญญามีความเป็นธรรม โปร่งใส และป้องกันการเอาเปรียบ โดยมีเป้าหมายหลักดังนี้1.คุ้มครองสิทธิของผู้ขายฝาก
- ลดความเสี่ยงที่เจ้าของทรัพย์จะเสียสิทธิในที่ดินหรือบ้านโดยไม่เป็นธรรม
- บังคับให้ทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรและจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานที่ดินเพื่อให้สามารถตรวจสอบได้
2.จำกัดอัตราดอกเบี้ยและผลตอบแทน
- กำหนดเพดานดอกเบี้ยหรือค่าตอบแทนไม่เกิน 15% ต่อปี (ตกเดือนละไม่เกิน 1.25%) เพื่อไม่ให้ผู้ซื้อฝากเรียกเก็บเกินควร
3.ให้มีการกำหนดระยะเวลาไถ่ถอนที่ชัดเจน
- ระบุว่าผู้ขายฝากมีสิทธิไถ่ถอน ไม่น้อยกว่า 1 ปี และไม่เกิน 10 ปี เพื่อให้มีเวลาหาเงินกู้คืนโดยไม่ถูกเร่งรัดจนเกินไป
4.สร้างมาตรฐานและลดข้อพิพาท
- มีแบบสัญญาและขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติร่วมกัน ลดความคลุมเครือและการฟ้องร้องในอนาคต
5.ส่งเสริมการใช้ทรัพย์สินเป็นหลักประกันที่ปลอดภัย
- เปิดโอกาสให้เจ้าของทรัพย์เข้าถึงแหล่งเงินทุนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยไม่ต้องพึ่งช่องทางการกู้หนี้นอกระบบ
ทรัพย์สินที่สามารถทำสัญญาขายฝากได้
พ.ร.บ.ขายฝาก ครอบคลุม อสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภท ดังนี้ 1.ที่ดินเพื่อการเกษตร เช่น ที่ดินเปล่า 2.ที่อยู่อาศัย เช่น บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม อาคารพาณิชย์ 3.ห้องชุดหรือคอนโดมิเนียม 4.สิ่งปลูกสร้างอื่นที่จดทะเบียนสิทธิครอบครองได้ตามกฎหมาย หมายเหตุ: การขายฝากต้องมีโฉนดหรือเอกสารสิทธิถูกต้อง และจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานที่ดินทุกครั้งสิทธิและหน้าที่ของคู่สัญญาในการทำขายฝาก
สิทธิและหน้าที่ของผู้ขายฝาก (เจ้าของทรัพย์เดิม)
- ใช้ประโยชน์จากทรัพย์ได้ตามปกติ เจ้าของทรัพย์ยังคงอยู่อาศัย ปล่อยเช่า หรือใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินได้เหมือนเดิมตลอดระยะเวลาสัญญา
- สิทธิไถ่ถอน สามารถไถ่ถอนทรัพย์คืนเมื่อชำระเงินต้นและดอกเบี้ยครบถ้วนภายในกำหนด ไม่น้อยกว่า 1 ปี และไม่เกิน 10 ปี ตามกฎหมาย
- สิทธิรับผลประโยชน์ หากมีการตกลงล่วงหน้า เช่น การเก็บค่าเช่าหรือผลผลิตจากที่ดิน ก็ยังคงได้รับสิทธินั้นได้เหมือนเดิม
- ผลลัพธ์เมื่อไม่ทำการไถ่ถอน หากครบกำหนดแล้วยังไม่ไถ่ถอน กรรมสิทธิ์จะตกเป็นของผู้ซื้อฝากทันที
สิทธิและหน้าที่ของผู้ซื้อฝาก (ผู้รับซื้อฝาก)
- ใช้ประโยชน์จากทรัพย์ได้ตามปกติ ได้รับกรรมสิทธิ์ชั่วคราวตามที่ระบุในสัญญา และสามารถเก็บผลประโยชน์จากทรัพย์ได้เท่าที่ตกลงกัน
- หน้าที่คืนทรัพย์เมื่อมีการไถ่ถอน ต้องคืนทรัพย์ให้ผู้ขายฝากทันที เมื่อมีการไถ่ถอนครบถ้วนภายในกำหนด
- ข้อจำกัดการโอน ในระหว่างสัญญาไม่สามารถขายหรือโอนกรรมสิทธิ์ให้บุคคลอื่นโดยปราศจากการยินยอม หรือเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
- ปฏิบัติตามเพดานดอกเบี้ย ต้องเรียกเก็บดอกเบี้ยหรือค่าตอบแทน ไม่เกิน 15% ต่อปี (1.25% ต่อเดือน) ตามที่กฎหมายกำหนด
เงื่อนไขสำคัญที่ผู้ขายฝากควรรู้ก่อนเริ่มทำธุรกรรม
เพื่อคุ้มครองเจ้าของทรัพย์ กฎหมายได้วางหลักเกณฑ์สำคัญดังนี้1.สัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร
ต้องทำต่อหน้าเจ้าพนักงานที่ดินและลงนามทั้งสองฝ่าย2.ระยะเวลาไถ่ถอน
ขั้นต่ำ 1 ปี และสูงสุด 10 ปี ตามประเภททรัพย์3.ดอกเบี้ยหรือผลตอบแทน
รวมค่าตอบแทนทั้งหมดต้อง ไม่เกิน 15% ต่อปี (1.25% ต่อเดือน)4.การต่อสัญญา
หากต้องการขยายเวลา ต้องทำสัญญาใหม่และจดทะเบียนอีกครั้งที่สำนักงานที่ดิน ตัวอย่างการคำนวณดอกเบี้ยสูงสุดตาม พ.ร.บ.ขายฝาก (ไม่เกิน 15% ต่อปี) เงินต้น 1,000,000 บาท × 15% = ดอกเบี้ยสูงสุด 150,000 บาท/ปี เฉลี่ยต่อเดือน 150,000 ÷ 12 = 12,500 บาท/เดือน ดังนั้นหากทำสัญญาขายฝาก 1 ปี เงินต้น 1 ล้านบาท ดอกเบี้ยหรือค่าตอบแทนที่ผู้รับซื้อฝากสามารถเรียกเก็บได้สูงสุดคือ 150,000 บาท ตามกฎหมาย. หากคุณกำลังมองหาทางเลือกในการใช้ทรัพย์สินเป็นเงินทุนผ่านการขายฝากหรือจำนอง การทำความเข้าใจรายละเอียดของ พ.ร.บ.ขายฝากคือก้าวแรกที่สำคัญ แต่การวางแผนอย่างรอบคอบและมีผู้เชี่ยวชาญช่วยแนะนำจะช่วยลดความเสี่ยงได้มากขึ้น สำหรับเจ้าของที่ดินหรือบ้านที่ต้องการคำปรึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับขั้นตอนขายฝาก–จำนอง ทีมงานของเราพร้อมให้คำแนะนำและวางแผนการเงินอย่างปลอดภัย ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ. ติดต่อทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่… โทร : 061-895-4469 Line OA : (@kaifakcoachtae) หรือ คลิกที่นี่Q&A: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ “พ.ร.บ.ขายฝาก”
พ.ร.บ.ขายฝาก คืออะไร และบังคับใช้เมื่อใด ?
คือพระราชบัญญัติว่าด้วยการคุ้มครองประชาชนในการทำสัญญาขายฝากที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหรือที่อยู่อาศัย พ.ศ. 2562 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2562 เพื่อคุ้มครองผู้ขายฝากไม่ให้ถูกเอาเปรียบ
ทรัพย์ประเภทใดบ้างที่ พ.ร.บ.ขายฝาก คุ้มครอง ?
อสังหาริมทรัพย์ทุกชนิดที่มีเอกสารสิทธิ์ เช่น
– ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
– บ้าน อาคารพาณิชย์
– ห้องชุดหรือคอนโดมิเนียม
พ.ร.บ.ขายฝาก กำหนดกำหนดระยะเวลาไถ่ถอนเท่าไร ?
ไม่น้อยกว่า 1 ปี และไม่เกิน 10 ปี นับจากวันที่ทำสัญญา หากครบกำหนดโดยไม่ไถ่ถอน กรรมสิทธิ์จะตกเป็นของผู้ซื้อฝากทันที
ระหว่างสัญญา ผู้ขายฝากยังใช้ประโยชน์จากทรัพย์ได้หรือไม่ ?
สามารถใช้ประโยชน์จากรัพย์ได้เหมือนเดิม
ดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนสูงสุดคิดได้ไม่เกินเท่าไร ?
รวมค่าตอบแทนทั้งหมด ไม่เกิน 15% ต่อปี หรือเฉลี่ยเดือนละประมาณ 1.25% เพื่อควบคุมไม่ให้เรียกเก็บเกินสมควร
หากไม่ไถ่ถอนภายในกำหนดจะเกิดอะไรขึ้น ?
สิทธิไถ่ถอนสิ้นสุดลง และกรรมสิทธิ์ในทรัพย์จะตกเป็นของผู้ซื้อฝากทันทีโดยสมบูรณ์ตามกฎหมาย
สามารถยกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนดได้หรือไม่ ?
สามารถทำได้ หากทั้งสองฝ่ายยินยอมและต้องไปจดทะเบียนยกเลิกสัญญาที่สำนักงานที่ดิน



