หากคุณกำลังรู้สึกเครียดกับการผ่อนบ้านไม่ไหว หรือเริ่มมีการค้างค่างวดหลายเดือน บทความนี้จะช่วยให้คุณเห็นทางออก โดยไม่ต้องรอให้ธนาคารฟ้องยึดทรัพย์ เพราะในความเป็นจริงแล้ว บ้านสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ และยังมีหลายวิธีที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
ผ่อนบ้านไม่ไหว ต้องทำยังไงก่อน?
- สังเกตสัญญาณเตือน เช่น การเริ่มค้างชำระ ธนาคารโทรทวง หรือลงดอกเบี้ยปรับ
- อย่าปล่อยให้ค้างเกิน 3 เดือน เพราะอาจนำไปสู่การฟ้องศาลและขายทอดตลาด
- เริ่มต้นหาทางเลือก ก่อน ที่ปัญหาจะบานปลาย
เปลี่ยนบ้านเป็นเงินสดได้จริงไหม?
ได้แน่นอนครับ โดยเฉพาะหากคุณมีโฉนดในมือ หรือผ่อนใกล้หมดแล้ว หรือแม้แต่ในกรณีที่บ้านยังติดจำนองอยู่ ก็ยังมีวิธีเปลี่ยนเป็นเงินก้อน เช่น:
- รีไฟแนนซ์
- จำนองกับบริษัทเอกชน
- ขายฝาก (อยู่บ้านต่อได้)
- ขายบ้านแล้วเช่ากลับอยู่
- ขอสินเชื่อบ้านแลกเงินจากบริษัทที่รับโฉนด
ทางเลือกทั้งหมดสำหรับคนผ่อนบ้านไม่ไหว (เรียงตามสถานการณ์)
สถานการณ์ที่ 1: ยังไม่ค้างชำระ แต่เริ่มผ่อนลำบาก
- รีไฟแนนซ์ หรือปรับโครงสร้างหนี้
- ลดดอกเบี้ยและค่างวด
- ขยายระยะเวลาผ่อน
- เหมาะกับคนที่ยังมีเครดิตดี
- ขอสินเชื่อบ้านแลกเงิน
- ใช้โฉนดบ้านที่ยังผ่อนไม่หมดในการขอวงเงินก้อน
- เหมาะกับคนที่ต้องการสภาพคล่องโดยไม่ย้ายออกจากบ้าน
- หาผู้ร่วมผ่อน (Co-borrower)
- ขอกู้ร่วมกับญาติหรือคู่สมรส
- เหมาะกับผู้ที่รายได้ลดลงชั่วคราว
สถานการณ์ที่ 2: ค้างค่างวดแล้ว 1–3 เดือน
- เจรจากับธนาคารเพื่อพักชำระหนี้
- ขอพักดอกเบี้ยหรือพักเงินต้นชั่วคราว
- เหมาะกับผู้ที่ได้รับผลกระทบชั่วคราว เช่น รายได้ลดจากงานหรือธุรกิจ
- กู้สินเชื่อส่วนบุคคลมาปิดยอดค้าง
- ได้เงินไว ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำ
- เหมาะกับผู้ที่มีหนี้ค้างไม่มาก และยังมีเครดิตดี
- รีไฟแนนซ์ไปธนาคารใหม่หรือบริษัทเอกชน
- หากธนาคารเดิมไม่อนุมัติ ให้ลองเจ้าอื่นที่เงื่อนไขยืดหยุ่นกว่า
อ่านมาตรการสนับสนุนการรีไฟแนนซ์ และการวมหนี้เพิ่มเติม ได้ที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย
สถานการณ์ที่ 3: ค้างนานเกิน 3 เดือน / มีหนังสือทวงหนี้
- จำนองใหม่กับนายทุนหรือนิติบุคคล
- ได้เงินก้อนโดยใช้บ้านเป็นหลักประกัน
- ยังถือกรรมสิทธิ์ และอยู่บ้านได้ต่อ
- ขายฝากบ้าน
- ได้เงินเร็ว อยู่บ้านต่อได้
- มีสิทธิ์ไถ่คืนตามกำหนด (1 ปี หรือมากกว่านั้น)
- ขายบ้านแล้วเช่ากลับ (Sell & Leaseback)
- ได้เงินเต็มจำนวนจากการขาย
- ทำสัญญาเช่ากลับเพื่ออยู่อาศัยต่อ
- ขายบ้านก่อนถูกยึด
- ป้องกันเครดิตเสีย
- มีโอกาสเก็บเงินส่วนต่างไว้ตั้งตัว
ข้อดี–ข้อควรระวังของแต่ละวิธี
ทางเลือก | ข้อดี | ข้อควรระวัง |
รีไฟแนนซ์ | ดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนยาว | ต้องมีเครดิตดี มีเอกสารครบ |
พักหนี้/ผ่อนต่ำ | ลดภาระชั่วคราว | เงื่อนไขเฉพาะ อาจไม่อนุมัติทุกกรณี |
จำนองใหม่ | ยังเป็นเจ้าของบ้าน ได้เงินเร็ว | ดอกเบี้ยอาจสูงกว่าธนาคาร |
ขายฝาก | ได้เงินไว อยู่บ้านต่อได้ | ต้องไถ่คืนตามกำหนด มิฉะนั้นเสียกรรมสิทธิ์ |
เช่ากลับหลังขาย | ยังอยู่บ้านเดิม | บ้านไม่ใช่ของเราอีกต่อไป |
ขายก่อนถูกยึด | ไม่เสียเครดิต ได้เงินบางส่วน | ต้องหาผู้ซื้อให้ทันก่อนการฟ้องศาล |
บ้านแลกเงิน | ได้เงินเพิ่มจากบ้านที่ผ่อนอยู่ | ต้องมีคุณสมบัติตามที่ผู้ให้กู้กำหนด |
กู้ส่วนบุคคล | ปิดยอดค้างได้ไว | ดอกเบี้ยสูง ผ่อนระยะสั้น |
อ่านเพิ่มเติม รีไฟแนนซ์ที่ดินหรือขายฝาก อะไรดีกว่ากัน? เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียเพื่อการตัดสินใจที่ดีที่สุด
สรุป: ควรเลือกแบบไหน?
ทุกวิธีมีข้อดีข้อเสียต่างกัน และสิ่งที่สำคัญคือคุณต้องประเมิน “สถานการณ์ของตัวเอง” ให้ชัดเจนก่อน:
- ถ้ายังมีรายได้ → รีไฟแนนซ์, บ้านแลกเงิน, หาผู้ร่วมผ่อน
- ถ้าเริ่มค้างงวด → เจรจาพักหนี้, รีไฟแนนซ์ใหม่, กู้ปิดยอดค้าง
- ถ้าค้างนานแล้ว → จำนองใหม่, ขายฝาก, ขายบ้าน
บ้านไม่ใช่แค่ทรัพย์สิน แต่มันคือความมั่นคงของครอบครัว คุณมีสิทธิ์ปกป้องมันถ้าเริ่มลงมือทันเวลา
ปรึกษาฟรีก่อนตัดสินใจ ไม่เสียค่าใช้จ่าย
คุณสามารถพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์เรื่องขายฝากและจำนองได้ฟรี เพื่อขอคำแนะนำเบื้องต้น โดยไม่มีข้อผูกมัดที่ “บริการของเรา”
- โทร : 061-895-4469
- LINE OA : @kaifakcoachtae หรือ https://lin.ee/5k9QSYx
อ่านเพิ่มเติม
ขายฝากบ้าน คืออะไร? ทางเลือกได้เงินก้อนแบบไม่ขายขาด พร้อมไถ่ถอนได้
รีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ไหม ดีจริงหรือไม่