โดนฟ้อง-โดนยึดทรัพย์จาก ‘กรมบังคับคดี’ ยังมีทางรอดไหม? 5 ทางเลือกที่คุณอาจยังไม่รู้

โดนฟ้อง-โดนยึดทรัพย์จาก ‘กรมบังคับคดี’ ยังมีทางรอดไหม? 5 ทางเลือกที่คุณอาจยังไม่รู้
  หากคุณได้รับจดหมายจากเจ้าหนี้ แจ้งว่าจะฟ้องร้อง หรือได้รับหนังสือจากกรมบังคับคดีว่าทรัพย์ของคุณกำลังจะถูกยึดขายทอดตลาด อย่าเพิ่งตื่นตระหนก เพราะความจริงแล้วยังมีทางรอด หากคุณเข้าใจขั้นตอนและรู้จักวางแผนรับมือให้เร็ว ในบทความนี้เราจะพาคุณเข้าใจสถานการณ์เมื่อถูกดำเนินคดี และเสนอ 5 ทางเลือกที่สามารถช่วยให้คุณรักษาทรัพย์ หรืออย่างน้อยชะลอขั้นตอนของกรมบังคับคดีไว้ได้  

กรมบังคับคดี คืออะไร?

กรมบังคับคดี เป็นหน่วยงานภายใต้กระทรวงยุติธรรม มีหน้าที่ “บังคับคดีตามคำพิพากษาของศาล” เช่น การยึดทรัพย์ การขายทอดตลาด หรือการอายัดเงินเดือน / บัญชีธนาคารของลูกหนี้ เมื่อเจ้าหนี้ชนะคดีในศาลแล้ว ลูกหนี้ยังไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษา หากคุณได้รับหนังสือจากกรมบังคับคดี แปลว่า “ศาลได้ตัดสินแล้ว” และขั้นตอนเข้าสู่กระบวนการบังคับคดีแล้ว  

5 ทางรอดจากการถูกยึดทรัพย์

 

1. รีบเจรจากับเจ้าหนี้ก่อนขายทอดตลาด

แม้ศาลตัดสินแล้ว คุณยังสามารถขอเจรจาประนอมหนี้กับเจ้าหนี้ได้ หากเจรจาสำเร็จ กรมบังคับคดีจะระงับการขายทอดตลาด และคุณสามารถทยอยชำระหนี้ตามข้อตกลงใหม่ได้ โดยต้องยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีอย่างเป็นทางการ  

2. ขอไถ่ถอนทรัพย์ก่อนวันขาย

หากทรัพย์ของคุณถูกกำหนดวันขายทอดตลาดแล้ว คุณยังสามารถ “ไถ่ถอน” ได้จนถึงก่อนวันขายจริง เพียงนำเงินไปชำระหนี้เต็มจำนวน (รวมค่าดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม) หากไม่มีเงินสดก้อน คุณสามารถใช้บริการจากผู้รับจำนองหรือขายฝาก เพื่อเปลี่ยนเจ้าหนี้เป็นผู้ใหม่ ชำระหนี้ให้เจ้าหนี้เดิม แล้ววางแผนไถ่ถอนภายหลัง  

3. ขายทรัพย์เองก่อนถูกยึด

คุณสามารถเสนอขายทรัพย์ด้วยตัวเองเพื่อให้ได้ราคาที่ดีกว่าการขายทอดตลาด โดยต้องแจ้งเจ้าหนี้และกรมบังคับคดีก่อนว่า คุณประสงค์จะขายเพื่อชำระหนี้เต็มจำนวน หรือเพื่อชำระหนี้บางส่วนและขอผ่อนผัน  

4. ตรวจสอบสิทธิ์ร้องขอศาลให้ชะลอบังคับคดี

ในบางกรณี ลูกหนี้สามารถยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอระงับการบังคับคดีชั่วคราว เช่น หากมีเหตุจำเป็น มีความพยายามชำระหนี้ หรืออยู่ระหว่างเจรจา ซึ่งต้องอาศัยคำแนะนำจากนักกฎหมาย  

5. ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านไถ่ถอนและกฎหมาย

บริษัทหรือที่ปรึกษาด้านการเงินบางแห่งมีบริการช่วยวางแผนไถ่ถอนทรัพย์ และเจรจากับเจ้าหนี้แทนลูกหนี้ โดยเฉพาะผู้ที่มีทรัพย์ เช่น บ้าน ที่ดิน คอนโด ซึ่งสามารถนำมาเป็นหลักทรัพย์จำนอง เพื่อขอเงินก้อนมาปิดหนี้ทันก่อนถูกยึด  

เราช่วยคุณก่อนทรัพย์ถูกยึดได้อย่างไร?

หากบ้านหรือที่ดินของคุณกำลังจะถูกขายทอดตลาดจากกรมบังคับคดี แต่คุณยังอยากรักษาทรัพย์ไว้ เราคือทีมที่พร้อมช่วยคุณก่อนจะสายเกินไป
  • ประเมินมูลค่าทรัพย์ และวางแผนให้เหมาะกับยอดหนี้ที่ต้องปิด
  • ดำเนินการจำนองหรือขายฝากอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้คุณได้รับเงินก้อนไปปิดหนี้เดิม
  • ดูแลขั้นตอนทั้งหมดที่กรมที่ดิน และประสานกับเจ้าหนี้เดิมหรือกรมบังคับคดีแทนคุณ
  • ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง ให้คำปรึกษาฟรีทุกขั้นตอน และช่วยให้คุณยังมีโอกาสไถ่ถอนทรัพย์คืนได้ภายในเวลา
หากคุณได้รับหนังสือฟ้อง แจ้งเตือนยึดทรัพย์ หรือใกล้วันขายทอดตลาด อย่ารอให้ถึงวันนั้น  ปรึกษาเราวันนี้เพื่อรักษาทรัพย์ของคุณไว้ให้ได้มากที่สุด  

กรมบังคับคดีไม่ได้น่ากลัว หากคุณเริ่มวางแผนทัน

สิ่งสำคัญที่สุดคือ เวลา หากคุณปล่อยให้ทุกอย่างเลยตามเลย กระบวนการบังคับคดีจะเดินหน้าโดยอัตโนมัติ และโอกาสในการรักษาทรัพย์ของคุณจะลดลงเรื่อย ๆ ยิ่งคุณมีทรัพย์ ยิ่งควรรีบวางแผน “ปิดหนี้ – รวมหนี้ – ไถ่ถอน” ก่อนถูกยึด เพราะเมื่อทรัพย์เข้าสู่ขั้นตอนของกรมบังคับคดีแล้ว มักถูกขายต่ำกว่าราคาตลาด และคุณอาจสูญเสียมากกว่าที่คิด หากคุณต้องการคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ โทรหาเรา 061-895-4469 หรือแอดไลน์ @kaifakcoachtae หรือ  https://lin.ee/5k9QSYx เพื่อเริ่มวางแผนให้เร็วที่สุด   

คำถามที่พบบ่อย

ได้ครับ คุณสามารถเจรจากับเจ้าหนี้ ขอไถ่ถอนทรัพย์ก่อนถึงวันขาย หรือใช้บริการผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยดำเนินการจำนองหรือขายฝาก เพื่อเปลี่ยนเจ้าหนี้และนำเงินก้อนไปปิดหนี้เดิมก่อนที่ทรัพย์จะถูกยึดขาย ซึ่งช่วยให้คุณรักษาทรัพย์ไว้ได้ในชื่อของคุณเอง

การจำนองหรือขายฝากช่วยให้คุณเปลี่ยนทรัพย์เป็นเงินก้อนอย่างถูกกฎหมาย โดยไม่ต้องขายทรัพย์ออกไปทันที คุณสามารถนำเงินก้อนนั้นไปไถ่ถอนทรัพย์จากเจ้าหนี้เดิมหรือลดภาระหนี้ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนบังคับคดีได้ ถือเป็นทางออกสำคัญที่ไม่ต้องรอให้ศาลหรือกรมบังคับคดีเข้าดำเนินการ

ได้ครับ จุดเด่นของจำนองหรือขายฝากคือใช้ “ทรัพย์” เป็นหลักในการพิจารณา ไม่จำเป็นต้องมีรายได้ประจำหรือสลิปเงินเดือน ขอเพียงเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์นั้นอย่างถูกต้อง ก็สามารถดำเนินการเพื่อขอวงเงินมาปิดหนี้หรือชะลอการยึดทรัพย์ได้