สัญญาขายฝาก มีอะไรบ้าง?

สัญญาขายฝากมีกี่ประเภท

สัญญาขายฝาก มีอะไรบ้าง

รูปแบบทำสัญญาขายฝาก จะมีอยู่หลายประเภท ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะของทรัพย์ที่ลูกหนี้นำมาขายฝากให้กับเจ้าหนี้ มาลองดูกันว่า ลักษณะของสัญญาขายฝากแต่ละประเภท แตกต่างกันยังไงบ้าง

 

1.ขายฝากอสังหาริมทรัพย์

สำหรับการขายฝากอสังหาริมทรัพย์ ครอบคลุมถึงอสังหาฯทุกประเภท ได้แก่ ที่ดิน บ้าน คอนโด อพาร์ทเมนท์ ทาวโฮม ที่นา สวน ไร่ ฯลฯ ซึ่งจำเป็นจะต้องทำเป็นหนังสือและต้องเข้าไปขอทำการจดทะเบียนต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่ 

ส่วนในกรณีที่ดิน จะต้องจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานที่ดิน ถ้าเป็นบ้านก็ต้องจดทะเบียนต่อที่ว่าการอำเภอ ณ ที่บ้านนั้นตั้งอยู่ กรณีหากไม่ทำตามนี้แล้ว จะถือว่าสัญญาขายฝากนี้เสียเปล่าเป็นอันใช้ไม่ได้ แล้วเท่ากับว่า สัญญานั้นไม่ได้เกิดขึ้น

ตัวอย่าง นาย A ต้องการ ขายฝากบ้านพร้อมที่ดิน ให้กับนาย B ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจะต้องทำสัญญาขายฝากบ้านและจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงาน ณ กรมที่ดิน ไม่เช่นนั้นจะถือว่าการสัญญาขายฝากนี้ไม่ได้เกิดขึ้น และไม่สามารถใช้ดำเนินการทางกฎหมายในภายหลังหากเกิดปัญหาได้ 

ข้อสำคัญก็คือ การทำสัญญาขายฝากอสังหาริมทรัพย์ จะต้องดำเนินการ จดทะเบียนต่อเจ้าพนักงาน ณ กรมที่ดิน ทุกครั้ง ไม่เช่นนั้นถือว่าบังคับใช้ไม่ได้ครับ

 

1.1 องค์ประกอบของการขายฝาก

  • ผู้ขายฝาก เจ้าของทรัพย์สินที่ต้องการเงินทุน
  • ผู้รับซื้อฝาก บุคคลหรือองค์กรที่ให้เงินแก่ผู้ขายฝาก และรับกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินเป็นหลักประกัน
  • ทรัพย์สิน มักเป็นอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน ที่ดิน หรืออาคาร
  • ข้อตกลงไถ่ถอน ระยะเวลาและจำนวนเงินที่ต้องใช้เพื่อไถ่ถอน

1.2 ขั้นตอนการขายฝาก

  1. ตกลงเงื่อนไข ทั้งสองฝ่ายตกลงเรื่องราคา และเงื่อนไขไถ่ถอน
  2. ทำสัญญาขายฝาก ลงนามต่อหน้าพนักงานที่สำนักงานที่ดิน
  3. จดทะเบียนกรรมสิทธิ์ กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจะโอนไปยังผู้รับซื้อฝาก
  4. ไถ่ถอน ผู้ขายฝากจ่ายเงินคืนและขอรับกรรมสิทธิ์กลับคืนในช่วงเวลาที่กำหนด

1.3 ข้อควรระวัง

  • กำหนดเวลาไถ่ถอน หากไม่สามารถไถ่ถอนภายในระยะเวลาที่กำหนด กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจะตกเป็นของผู้รับซื้อฝากอย่างถาวร
  • ดอกเบี้ยแฝง หากมีการกำหนดเงินที่ต้องจ่ายคืนสูงเกินไป อาจถูกพิจารณาว่าเป็นการกู้ยืมที่มีดอกเบี้ยเกินกฎหมาย
  • ค่าธรรมเนียม มีค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนที่สำนักงานที่ดิน

 

2.สังหาทรัพย์ชนิดพิเศษ

เป็นกรณีของการขายฝากสังหาริมทรัพย์ชนิดพิเศษ ได้แก่ ทรัพย์สินเคลื่อนที่ได้ ซึ่งในทางกฎหมายจะกำหนดไว้เป็นพิเศษว่าจะต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อเจ้าหน้าที่ ตัวอย่างเช่น เรือยนต์ สัตว์พาหนะ ไม่ว่าจะเป็น วัว ควาย ไก่ ฯลฯ 

กรณีของทรัพย์ประเภทนี้ จะต้องทำสัญญาเป็นหนังสือและไปจดทะเบียนที่อำเภอ ถ้าหากว่าไม่ทำตามนี้ จะถือว่าสัญญาขายฝากไม่สามารถบังคับใช้ได้เช่นกัน

 

3.สังหาริมทรัพย์ชนิดธรรมดา 

เป็นกรณีของการขายฝากสังหาริมทรัพย์ชนิดธรรมดา ได้แก่ ทรัพย์ที่สามารถเคลื่อนที่ได้แต่กฎหมายได้กำหนดไว้ว่าต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และต้องมีราคาตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป ทรัพย์กลุ่มนี้ที่เข้าข่ายและนิยมนำมาขายฝากกันก็คือ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ฯลฯ

ส่วนกรณีที่เป็นทรัพย์สินอื่นๆที่อยู่ติดของบุคคล เช่น นาฬิกาข้อมือ ตู้เย็น สร้อยคอ แหวนเพชร โทรทัศน์ ฯลฯ ในการขายฝากประเภทนี้ จะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสำคัญหรือต้องมีการวางมัดจำหรือจำต้องมีการชำระหนี้บางส่วน หรืออย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ ทั้งนี้ถ้าไม่ทำตามนี้แล้วในทางกฎหมายจะถือว่าสัญญาขายฝากรายนี้ห้ามไม่ให้มีการฟ้องบังคับคดีนั่นเอง

ดังนั้นต้องพิจารณาด้วยว่า สัญญาขายฝาก ทรัพย์ที่จะนำขายฝากของเราเป็นทรัพย์ประเภทใดบ้าง

 

สัญญาขายฝาก เป็นรูปแบบหนึ่งของการทำธุรกรรมทางการเงินที่ให้สิทธิ์ผู้ขายสามารถไถ่ถอนทรัพย์สินที่ขายไปได้ภายในเวลาที่ตกลงไว้ โดยสัญญาขายฝากแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ สัญญาขายฝากอสังหาริมทรัพย์ และ สัญญาขายฝากสังหาริมทรัพย์ ซึ่งแต่ละแบบมีรายละเอียดและข้อกำหนดที่แตกต่างกันไปตามประเภทของทรัพย์สิน

 

ประเภทของสัญญาขายฝาก

 

  1. สัญญาขายฝากอสังหาริมทรัพย์
    • อสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ ที่ดิน บ้าน อาคารพาณิชย์ หรือคอนโดมิเนียม ซึ่งไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้
    • ระยะเวลาการไถ่ถอน กฎหมายกำหนดให้ผู้ขายสามารถไถ่คืนทรัพย์สินได้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี นับจากวันที่ทำสัญญา หากผู้ขายสามารถไถ่คืนภายในระยะเวลานี้ ทรัพย์สินจะกลับมาเป็นของผู้ขาย
    • การจดทะเบียน สัญญาขายฝากอสังหาริมทรัพย์ต้องมีการจดทะเบียนที่สำนักงานที่ดิน เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและมีผลบังคับทางกฎหมาย
  2. สัญญาขายฝากสังหาริมทรัพย์
    • สังหาริมทรัพย์ หมายถึงทรัพย์สินที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เช่น รถยนต์ เครื่องประดับ หรือสินทรัพย์ที่มีมูลค่า
    • ระยะเวลาการไถ่ถอน สำหรับสังหาริมทรัพย์ ระยะเวลาไถ่ถอนมักจะไม่เกิน 3 ปี แต่ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถตกลงระยะเวลาที่เหมาะสมได้ตามข้อตกลง
    • สัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร แม้บางกรณีไม่ต้องจดทะเบียน แต่การทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันข้อพิพาทในภายหลัง

 

ข้อควรทราบเกี่ยวกับสัญญาขายฝาก

 

  • สิทธิ์การไถ่คืน ในสัญญาขายฝาก ผู้ขายมีสิทธิ์ที่จะไถ่คืนทรัพย์สินได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด หากไม่สามารถไถ่คืนได้ตามเวลา ทรัพย์สินจะเป็นของผู้ซื้ออย่างถาวร
  • การจดทะเบียน สำหรับอสังหาริมทรัพย์ การจดทะเบียนสัญญาขายฝากที่สำนักงานที่ดินเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้สัญญามีผลตามกฎหมาย ส่วนสังหาริมทรัพย์อาจไม่จำเป็นต้องจดทะเบียน แต่ควรมีเอกสารสัญญาอย่างชัดเจน
  • การขยายระยะเวลาไถ่ถอน หากผู้ขายไม่สามารถไถ่คืนได้ตามเวลาที่กำหนด สามารถตกลงกับผู้ซื้อเพื่อขยายระยะเวลาไถ่ถอน โดยต้องทำสัญญาเพิ่มเติมและจดทะเบียน (กรณีอสังหาริมทรัพย์)

 

การทำ สัญญาขายฝาก ไม่ว่าจะเป็นการขายฝากอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์ ผู้ขายมีสิทธิ์ในการไถ่คืนทรัพย์สินที่ขายไปได้ตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่ตกลงไว้ ดังนั้น การทำสัญญาที่ชัดเจนและถูกต้องตามกฎหมายเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันข้อพิพาทในอนาคต หากคุณกำลังพิจารณาการทำสัญญาขายฝาก ควรศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องและตรวจสอบรายละเอียดทุกอย่างอย่างรอบคอบ

 

#สอบถามข้อมูลจำนองขายฝาก

โทร : 061-895-4469

Line OA : https://lin.ee/5k9QSYx

(@kaifakcoachtae)

Website : https://xn—-twfcwe6hya3b6gwbcd46a.com

#ขายฝากที่ดิน #ขายฝากจำนอง #ขายฝาก #จำนอง #โค้ชเต๊ะ #รับขายฝาก #รับจำนอง #รับขายฝากจำนอง #โฉนดที่ดิน #กรมที่ดิน #โฉนด #อสังหาริมทรัพย์ #บ้านแลกเงิน