บ้านยังผ่อนไม่หมด จำนองได้ไหม? | รวมคำตอบและทางเลือกที่ทำได้จริง

บ้านยังผ่อนไม่หมด จำนองได้ไหม

 

หากคุณกำลังผ่อนบ้านอยู่ แล้วยังไม่หมดสัญญากับธนาคาร แต่เกิดเหตุจำเป็นต้องใช้เงินก้อนเพิ่ม คำถามที่มักเกิดขึ้นคือ: “สามารถนำบ้านที่ยังผ่อนไม่หมดไปจำนองได้ไหม?” คำตอบคือ “ทำได้” ในบางกรณี แต่ต้องเข้าใจทางเลือกและเงื่อนไขให้ชัดเจนก่อน

บทความนี้จะช่วยคุณวางแผนการใช้บ้านที่ยังผ่อนไม่หมดให้กลายเป็นทางออกทางการเงินที่ปลอดภัย โดยไม่เสียสิทธิ์ในทรัพย์ และยังสามารถอยู่ในบ้านต่อได้

 

บ้านยังผ่อนไม่หมด คืออะไร?

บ้านที่ยังอยู่ระหว่างการผ่อนกับธนาคาร หมายถึงยังอยู่ภายใต้สัญญาจำนองกับเจ้าหนี้เดิม (ส่วนใหญ่คือธนาคาร) เจ้าของบ้านมีกรรมสิทธิ์ร่วม แต่โฉนดบ้านยังอยู่กับธนาคาร

ดังนั้น การจะจำนองใหม่ หรือขอกู้เพิ่ม จึงต้อง “ทำผ่านธนาคารเดิม” หรือ “ทำผ่านวิธีอื่นที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย”

 

บ้านยังผ่อนไม่หมด จำนองได้ไหม?

คำตอบคือ: สามารถขอกู้เพิ่มได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้ 3 เงื่อนไขหลัก:

 

  1. ต้องมีวงเงินเหลือในมูลค่าบ้าน ที่ยังไม่ถูกใช้ไปจากกู้รอบแรก
  2. ต้องมีเครดิตดี และประวัติชำระเงินตรงงวด
  3. ต้องขอกู้เพิ่มผ่านธนาคารเดิมเท่านั้น ไม่สามารถจำนองซ้อนกับธนาคารใหม่ได้โดยตรง

 

อ่านเพิ่มเติม ติดภาระหนี้ คืออะไร? จำนองขายฝากได้ไหม? ไขข้อสงสัยที่เจ้าของทรัพย์ต้องรู้

 

ทางเลือกอื่น ๆ ถ้าธนาคารไม่อนุมัติ

หากคุณขอกู้เพิ่มจากธนาคารเดิมแล้วไม่ได้รับการอนุมัติ ยังมีอีกหลายทางเลือกที่สามารถพิจารณาได้

 

1. จำนองบ้าน + ขอกู้เพิ่ม (Top-up Loan)

 

  • ย้ายวงเงินผ่อนเดิมไปยังธนาคารใหม่ที่ให้เงื่อนไขดีกว่า
  • ขอเงินเพิ่มในคราวเดียวได้ หากมูลค่าบ้านรองรับ
  • เหมาะกับผู้ที่ผ่อนบ้านมาแล้วมากกว่า 30–50%

 

2. ขายฝากบ้านเพื่อปิดหนี้เดิม และรับเงินเพิ่ม

 

  • ใช้เงินจากการขายฝากไปปิดยอดกู้ธนาคาร
  • รับส่วนต่างเป็นเงินสดมาใช้งาน
  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาด้านเครดิต หรือธนาคารปฏิเสธ
  • อยู่บ้านต่อได้ ภายใต้สัญญาขายฝาก โดยทั่วไปเริ่มที่ระยะเวลา 1 ปี เป็นอย่างต่ำ และสามารถต่อสัญญาได้หากชำระดอกเบี้ยตรงตามเงื่อนไข

 

3. บ้านแลกเงินกับบริษัทที่รับโฉนดติดภาระ

 

  • บางบริษัทเอกชนให้บริการบ้านแลกเงินแม้ยังติดจำนองอยู่
  • จะมีการปิดบัญชีเดิมแล้วจำนองใหม่พร้อมกันในวันโอน
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการกู้แต่ไม่อยากใช้เวลานานกับธนาคาร

 

ขั้นตอนตรวจสอบเบื้องต้น ถ้าคุณสนใจใช้บ้านขอกู้เพิ่ม

 

  1. ตรวจสอบวงเงินบ้านที่เหลือ (ประเมินราคาปัจจุบัน)
  2. ตรวจสอบยอดหนี้คงเหลือที่ยังผ่อนอยู่
  3. เปรียบเทียบวงเงินส่วนต่างที่ขอกู้เพิ่มได้
  4. เช็กเครดิตตัวเองว่าอยู่ในเกณฑ์ดีหรือไม่
  5. ติดต่อธนาคารเดิมเพื่อสอบถามแนวทาง

 

หากไม่ผ่านธนาคาร ค่อยเปลี่ยนไปใช้บริการเอกชนหรือพิจารณาขายฝากตามข้อเสนออื่น

 

เปรียบเทียบ: รีไฟแนนซ์ vs จำนองเพิ่ม vs ขายฝาก – แบบไหนเหมาะกับคุณ?

 

รายการรีไฟแนนซ์ (Refinance)จำนองเพิ่ม (Top-up Loan)ขายฝาก (Sell with Buyback Option)
วัตถุประสงค์หลักลดดอกเบี้ย + ขอกู้เพิ่มจากแบงก์ใหม่ขอวงเงินเพิ่มจากแบงก์เดิมได้เงินด่วนจากผู้ให้ทุนโดยใช้บ้านเป็นหลักประกัน
กรรมสิทธิ์บ้านเป็นของเจ้าของบ้านเป็นของเจ้าของบ้านโอนกรรมสิทธิ์ชั่วคราว มีสิทธิไถ่คืนตามสัญญา
เงื่อนไขการอนุมัติต้องมีเครดิตดี + รายได้มั่นคงต้องมีเครดิตดี + วงเงินบ้านเหลือไม่เช็คเครดิต + ดูทรัพย์เป็นหลัก
ระยะเวลาใช้หนี้/ถือครอง10–30 ปีต่อยอดจากระยะเวลาเดิมเริ่มต้น 1 ปี (ต่อสัญญาได้)
ความเร็วในการได้เงิน2–4 สัปดาห์ (ขึ้นอยู่กับธนาคารใหม่)1–2 สัปดาห์ (ถ้าแบงก์เดิมอนุมัติเร็ว)1–3 วัน (เอกสารครบ ทำที่กรมที่ดินทันที)
โอกาสถูกอนุมัติปานกลาง – ต้องมีประวัติดีและผ่อนมาแล้วบางส่วนปานกลาง – ขึ้นกับธนาคารเดิมสูง – ถ้าทรัพย์ดีและเอกสารพร้อม
ความเสี่ยงถ้าไม่ผ่าน อาจเสียโอกาสรีไฟแนนซ์ในระยะสั้นถ้าเครดิตไม่ดี อาจถูกปฏิเสธถ้าไม่ไถ่ถอนตามกำหนด อาจเสียกรรมสิทธิ์บ้าน
อยู่บ้านต่อได้ไหมได้ (ตามสัญญากู้ใหม่กับแบงก์)ได้ (บ้านยังเป็นของเรา)ได้ (ถ้าชำระดอกเบี้ยตามสัญญา)

 

ถ้าคุณมีเครดิตดี รายได้มั่นคง → รีไฟแนนซ์หรือจำนองเพิ่มกับธนาคารอาจเป็นทางเลือกที่ดี
ถ้าคุณต้องการเงินด่วน ไม่ผ่านแบงก์ → ขายฝากเป็นวิธีที่ทำได้ไวและไม่ต้องใช้เครดิต

เปรียบเทียบสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ได้ที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย 

 

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

 

Q: จำนองซ้อนกับธนาคารใหม่ได้ไหม?
A: โดยทั่วไปไม่สามารถทำได้ เพราะโฉนดบ้านยังอยู่กับธนาคารเดิม ธนาคารใหม่จะไม่สามารถรับจำนองซ้อนได้ เว้นแต่จะมีการปิดหนี้เก่าและทำจำนองใหม่ทั้งหมด

 

Q: ถ้าผ่อนบ้านมาแค่ 1–2 ปี ขอจำนองบ้านหรือรีไฟแนนซ์ได้ไหม?
A: ธนาคารส่วนใหญ่มักกำหนดว่าต้องผ่อนบ้านมาแล้ว 3 ปีขึ้นไปเพื่อให้สามารถรีไฟแนนซ์ได้ และหากจะขอกู้เพิ่ม (top-up) ต้องมีวงเงินเหลือ และเครดิตต้องอยู่ในเกณฑ์ดี

 

Q: ถ้าผ่อนบ้านไม่ตรงงวด มีผลกับการขอกู้เพิ่มไหม?
A: มีผลโดยตรง เพราะธนาคารจะดูประวัติการชำระหนี้ย้อนหลัง หากพบว่ามีการค้างชำระ หรือจ่ายล่าช้า อาจส่งผลต่อโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อเพิ่ม

 

Q: ขายฝากบ้านต้องย้ายออกไหม?
A: โดยทั่วไปไม่ต้องย้ายออก หากในสัญญาระบุสิทธิการพักอาศัยไว้ ผู้ขายสามารถอยู่ต่อได้ตลอดระยะเวลาสัญญา แต่ต้องชำระดอกเบี้ยตรงตามเงื่อนไข และควรตรวจสอบรายละเอียดสัญญาให้ชัดเจนก่อนเซ็นทุกครั้ง

 

Q: ถ้าธนาคารไม่อนุมัติสินเชื่อเพิ่ม มีวิธีไหนที่สามารถเปลี่ยนบ้านเป็นเงินได้อีกบ้าง?
A: คุณสามารถเลือกใช้วิธีรีไฟแนนซ์ไปธนาคารอื่นที่มีเงื่อนไขดีกว่า, ขายฝากเพื่อปิดหนี้เดิมแล้วรับเงินส่วนต่าง, หรือขอสินเชื่อบ้านแลกเงินจากบริษัทเอกชนที่รับโฉนดติดภาระ โดยแต่ละวิธีมีเงื่อนไขแตกต่างกัน ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ

 

Q: อยู่ต่างจังหวัดสามารถขอจำนองหรือขายฝากได้ไหม?
A: ได้ในหลายกรณี โดยเฉพาะบ้านที่ตั้งอยู่ในเขตชุมชน เขตตัวเมือง หรือพื้นที่ที่มีราคาประเมินชัดเจน ผู้ให้บริการส่วนใหญ่มักมีเครือข่ายทั่วประเทศ แต่ควรตรวจสอบว่าบริษัทนั้นมีบริการครอบคลุมพื้นที่ของคุณหรือไม่

 

บ้านยังผ่อนไม่หมด แต่บ้านอยู่ต่างจังหวัด ทำอะไรได้บ้าง?

ถ้าคุณอาศัยอยู่ต่างจังหวัด ก็ยังสามารถใช้บ้านที่ผ่อนไม่หมดในการขอกู้เพิ่ม จำนองบ้าน หรือขายฝากได้เช่นกัน
เพียงแต่ควรตรวจสอบก่อนว่า:

 

  • ธนาคารหรือบริษัทที่ให้บริการมีสาขาครอบคลุมหรือไม่
  • ที่ดินอยู่ในเขตเมือง/พื้นที่ที่มีความเคลื่อนไหว (ยิ่งมีศักยภาพ ยิ่งขอวงเงินได้ง่าย)

 

หลายบริษัทเอกชนและนายทุนในปัจจุบันมีเครือข่ายทั่วประเทศ และสามารถจัดส่งเจ้าหน้าที่เพื่อทำธุรกรรมในพื้นที่ได้ หากคุณเตรียมเอกสารพร้อม

 

สรุปบ้านยังผ่อนไม่หมด ใช้เป็นเงินก้อนได้ แต่ต้องเข้าใจเงื่อนไข

 

  • ถ้ามีเครดิตดีและวงเงินเหลือ → ขอสินเชื่อเพิ่มจากธนาคารเดิม
  • ถ้าเครดิตไม่ดี หรือธนาคารไม่อนุมัติ → พิจารณาจำนองบ้าน, ขายฝาก หรือบ้านแลกเงินกับเอกชน
  • ควรปรึกษาก่อนตัดสินใจ เพื่อเข้าใจความเสี่ยงและสิทธิของตัวเอง

 

หากสนใจหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถกด  “บริการของเรา”

 

อ่านเพิ่มเติม

จำนอง-ขายฝาก vs การขายขาด ตัวเลือกไหนตอบโจทย์การเงินของคุณ

ติดไฟแนนซ์ ทำจำนองหรือขายฝากได้ไหม?