การโอนที่ดินเป็นขั้นตอนสำคัญของการซื้อ–ขายหรือโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ และมักเป็นจุดที่หลายคนสับสนเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะมีทั้งค่าธรรมเนียม ภาษี และค่าใช้จ่ายตามกฎหมายที่ต้องชำระครบถ้วน เมื่อเข้าสู่ปี 2569 อัตราค่าโอนและภาษีบางรายการมีการปรับตามเกณฑ์ใหม่ที่กรมที่ดินกำหนด บทความนี้จะช่วยอัปเดตข้อมูลล่าสุด พร้อมสรุปวิธีคำนวณค่าโอนที่ดินแบบเข้าใจง่าย เพื่อให้เจ้าของทรัพย์ ผู้ซื้อ และผู้ขายสามารถวางแผนค่าใช้จ่ายได้อย่างถูกต้องก่อนไปทำธุรกรรม
ค่าโอนที่ดินคืออะไร
ค่าโอนที่ดิน คือ ค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระเมื่อมีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์จากผู้ขายไปยังผู้ซื้อ ณ สำนักงานที่ดิน โดยเป็นค่าธรรมเนียมที่กฎหมายกำหนดและจัดเก็บโดยกรมที่ดิน โดยจะถูกคิดเป็น “เปอร์เซ็นต์” จากราคาประเมินที่ดินของกรมธนารักษ์หรือราคาซื้อขายจริง แล้วแต่ว่าราคาใดสูงกว่า ค่าโอนที่ดิน เป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายสำคัญที่เกิดขึ้นทุกครั้งในการซื้อ–ขายหรือโอนทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด หรือที่ดิน และเป็นค่าใช้จ่ายที่ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องตกลงร่วมกันล่วงหน้าให้ชัดเจนว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมดหรือแบ่งกันคนละครึ่ง การทำความเข้าใจค่าโอนที่ดินจึงเป็นขั้นตอนแรกที่ช่วยให้ผู้ซื้อ–ผู้ขายสามารถวางแผนงบประมาณได้ถูกต้องก่อนเข้าดำเนินการที่สำนักงานที่ดินจริง ลดความสับสนและปัญหาในวันทำธุรกรรมได้เป็นอย่างดี
ค่าใช้จ่ายในการโอนที่ดิน มีอะไรบ้าง (อัปเดตปี 2569)
การโอนที่ดินในปี 2569 มีค่าใช้จ่ายหลายรายการที่ต้องชำระ ณ สำนักงานที่ดิน ทั้งส่วนที่เป็น “ค่าธรรมเนียมตามกฎหมาย” และส่วนที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติมตามลักษณะของการทำธุรกรรม โดยค่าใช้จ่ายหลักที่ต้องเตรียมไว้ มีดังนี้
1.ค่าธรรมเนียมคำขอโอนที่ดิน
ค่าใช้จ่าย : 5 บาท
2. ค่าอากรของสำนักงานที่ดิน
ค่าใช้จ่าย : 5 บาท
3. ค่าพยานในวันโอน
ค่าใช้จ่าย : 20 บาท
4. ค่าธรรมเนียมโอนที่ดิน
ค่าใช้จ่าย : 2% ของราคาประเมินหรือราคาขาย (ใช้ราคาที่สูงสุดในการคำนวณ)
เป็นค่าใช้จ่ายหลักในการโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเลือกราคาที่สูงสุดในการคำนวณเสมอ
5. ค่าจดจำนองที่ดิน
ค่าใช้จ่าย : 1% ของวงเงินที่จดจำนอง (สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท)
เก็บเฉพาะกรณีที่กู้เงินจากธนาคารมาซื้อ
6. ค่าอากรแสตมป์
ค่าใช้จ่าย : 0.5% ของราคาประเมินหรือราคาขาย (ใช้ราคาที่สูงสุดในการคำนวณ)
ใช้ในกรณีที่ผู้ขายถือครองที่ดินครบ 5 ปีขึ้นไป ซึ่งผู้ขายจะชำระเฉพาะค่าอากรแสตมป์ และไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะในกรณีนี้
7. ภาษีธุรกิจเฉพาะ
ค่าใช้จ่าย : 3.3% ของราคาประเมินหรือราคาขาย (ใช้ราคาที่สูงสุดในการคำนวณ)
เก็บในกรณีผู้ขายถือครองที่ดินไม่ถึง 5 ปี ซึ่งผู้ขายจะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ แต่ได้รับยกเว้นค่าอากรแสตมป์
8. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (หัก ณ ที่จ่าย)
ค่าใช้จ่าย : ขึ้นอยู่กับรายได้สุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายตามปีที่ถือครอง
สำนักงานที่ดินจะคำนวณตามขั้นเงินได้ของผู้ขาย และเรียกเก็บในวันโอนทันที
เมื่อมีการขายที่ดิน รายได้จากการขายจะต้องนำมาคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่กฎหมายอนุญาตให้ “หักค่าใช้จ่าย” ตามจำนวนปีที่ผู้ขายถือครองที่ดินได้ โดยเปอร์เซ็นต์ที่หักได้นั้นลดหลั่นตามจำนวนปีที่ถือครอง ดังนี้
- หากถือครอง 1 ปี หักค่าใช้จ่ายได้ 92% ของราคาขาย
- หากถือครอง 2 ปี หักค่าใช้จ่ายได้ 84% ของราคาขาย
- หากถือครอง 3 ปี หักค่าใช้จ่ายได้ 77% ของราคาขาย
- หากถือครอง 4 ปี หักค่าใช้จ่ายได้ 71% ของราคาขาย
- หากถือครอง 5 ปี หักค่าใช้จ่ายได้ 65% ของราคาขาย
- หากถือครอง 6 ปี หักค่าใช้จ่ายได้ 60% ของราคาขาย
- หากถือครอง 7 ปี หักค่าใช้จ่ายได้ 55% ของราคาขาย
- หากถือครอง มากกว่า 8 ปีขึ้นไป หักค่าใช้จ่ายได้ 50% ของราคาขาย
ตัวอย่างการคำนวณค่าโอนที่ดิน แบบเข้าใจง่าย
หลายคนอาจรู้ว่าค่าโอนที่ดินมีหลายส่วน แต่พอถึงเวลาคำนวณจริงกลับสับสนว่าต้องใช้ราคาไหนเป็นฐาน ต้องเตรียมเงินประมาณเท่าไร เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น เราจึงสรุป “ตัวอย่างการคำนวณ” พร้อมตัวเลขให้เห็นครบทุกขั้นตอน ช่วยให้คุณประเมินค่าใช้จ่ายก่อนโอนได้แม่นยำมากขึ้น และวางแผนล่วงหน้าได้อย่างถูกต้อง
ตัวอย่าง
นาย A ต้องการซื้อที่ดินเปล่า 1 แปลงจากนาง B เพื่อเตรียมสร้างบ้านในอนาคต โดยทั้งสองฝ่ายตกลงราคาซื้อขายไว้ที่ 2,200,000 บาท ขณะที่ราคาประเมินกรมธนารักษ์ของที่ดินแปลงนี้อยู่ที่ 2,000,000 บาท
ผู้ขาย (นาง B) ถือครองที่ดินแปลงนี้มานาน 6ปี ส่วนผู้ซื้อ (นาย A) วางแผนขอสินเชื่อจากธนาคารเป็นจำนวน 1,500,000 บาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการซื้อที่ดิน
ในกรณีนี้ ทั้งคู่ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดินตามกฎหมายปี 2569 ซึ่งจะคำนวณจาก “ราคาที่สูงสุด” ระหว่างราคาประเมินและราคาซื้อขายจริง
ด้านล่างนี้คือการคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดในวันโอนของนาย A และนาง B แบบแยกรายการให้เห็นชัดเจนทีละขั้นตอน
1.ราคาที่ใช้คำนวณ
เพื่อให้การคำนวณค่าโอนเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกรมที่ดิน จะต้องนำ “ราคาที่สูงที่สุด” ระหว่างราคาประเมินราชการและราคาซื้อขายจริงมาเป็นฐานในการคิดค่าใช้จ่ายทั้งหมด
- ราคาประเมิน : 2,000,000 บาท
- ราคาซื้อขายจริง : 2,200,000 บาท
ดังนั้น จะใช้ 2,200,000 บาท เป็นราคาหลักในการคำนวณค่าธรรมเนียมและภาษีต่าง ๆ
2. ค่าธรรมเนียมโอนที่ดิน
ค่าธรรมเนียมโอนคิดที่ 2% ของราคาที่ใช้ในการคำนวณ ซึ่งต้องเป็นราคาที่สูงที่สุด
ฐานคำนวณ : 2,200,000 บาท
คิด 2% ของ 2,200,000 = 44,000 บาท
3. ค่าอากรแสตมป์
ค่าอากรแสตมป์คิดที่ 0.5% ของราคาที่สูงที่สุด ระหว่างราคาประเมินและราคาขาย ใช้ฐานเดียวกับค่าธรรมเนียมโอน
ฐานคำนวณ : 2,200,000 บาท
คิด 0.5% ของ 2,200,000 = 11,000 บาท
4. ภาษีธุรกิจเฉพาะ
กรณีนี้ ผู้ขายถือครองที่ดินครบ 5 ปีแล้ว จึงได้รับการยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามหลักเกณฑ์ของกรมที่ดิน
5. ค่าจดจำนอง (กรณีผู้ซื้อกู้ธนาคาร)
เนื่องจากนาย A ยื่นกู้ธนาคารจำนวน 1,500,000 บาท จึงต้องมีค่าใช้จ่ายในการจดจำนอง ซึ่งคิดที่ 1% ของวงเงินกู้
(ตามเกณฑ์ปัจจุบันสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท)
ฐานคำนวณ : 1,500,000 บาท
คิด 1% ของ 1,500,000 = 15,000 บาท
6. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (กรณีผู้ซื้อกู้ธนาคาร)
แม้นาง B ถือครองเกิน 5 ปี ทำให้ได้รับการยกเว้น “ภาษีธุรกิจเฉพาะ” แต่ ยังต้องชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากการขายที่ดินตามโครงสร้างภาษีของกรมสรรพากร
การคำนวณภาษีเงินได้มีหลายตัวแปร เช่น
- ราคาที่ใช้คำนวณ (ใช้ราคาประเมิน 2,000,000 บาท)
- จำนวนปีที่ถือครอง
- อัตราค่าใช้จ่ายที่หักเหมาได้
| รายได้จากการขาย (ใช้ราคาสูงสุด) | 2,200,000 บาท |
| หักค่าใช้จ่ายตามปีที่ถือครอง (6 ปี = 60%) | 1,320,000 บาท |
| เงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย (รายได้จากการขาย – หักค่าใช้จ่ายตามปีที่ถือครอง) | 880,000 บาท |
| เงินได้เฉลี่ยต่อปี (เงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย÷จำนวนปีที่ถือครอง) | 146,666 บาท |
| ภาษีเฉลี่ยต่อปี (150,000-300,000 บาทต้องเสีย 5%) | 0 บาท (เพราะเฉลี่ยต่อปียังไม่ถึง 150,000 บาท) |
| ภาษีที่ต้องชำระทั้งหมด | 0 บาท |
หรือสามารถตรวจสอบด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์โดยตรงของกรมที่ดินได้ที่ https://lecs.dol.go.th/rcal/
การโอนที่ดินมีรายละเอียดด้านค่าใช้จ่ายและขั้นตอนตามกฎหมายหลายส่วนที่ควรตรวจสอบให้ครบถ้วน หากมีการวางแผนล่วงหน้าและคำนวณต้นทุนอย่างถูกต้อง จะช่วยลดความผิดพลาดและทำให้กระบวนการโอนกรรมสิทธิ์เป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้น
หากคุณต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการใช้สินทรัพย์เป็นหลักประกัน หรือสนใจบริการขายฝาก–จำนองเพื่อเสริมสภาพคล่อง สามารถติดต่อเพื่อประเมินทรัพย์และรับคำปรึกษาเพิ่มเติมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ติดต่อทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่
โทร : 061-895-4469
Line OA : (@kaifakcoachtae) หรือ คลิกที่นี่




