ขายฝากออนไลน์ คืออะไร? ปลอดภัยไหม? ใช้เอกสารอะไร? ทุกคำตอบอยู่ที่นี่

ขายฝากออนไลน์ คืออะไร? ปลอดภัยไหม? ใช้เอกสารอะไร? ทุกคำตอบอยู่ที่นี่

หากคุณกำลังมองหาเงินด่วน แต่ไม่อยากเสียเวลาติดต่อคนกลางหรือเดินเรื่องยุ่งยากแบบเดิม การ “ขายฝากออนไลน์” คือทางเลือกใหม่ที่รวดเร็ว ปลอดภัย และสามารถทำได้แม้อยู่ต่างจังหวัด บทความนี้จะอธิบายทุกอย่างที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับขายฝากผ่านช่องทางออนไลน์ พร้อมคำแนะนำที่ทำให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ

ขายฝากออนไลน์ คืออะไร?

แตกต่างจากขายฝากทั่วไปอย่างไร

ขายฝากออนไลน์ คือกระบวนการยื่นขอขายฝากทรัพย์สิน เช่น บ้าน ที่ดิน หรืออาคาร ผ่านระบบออนไลน์ เช่น LINE, แบบฟอร์มบนเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน โดยไม่ต้องเดินทางไปหานายหน้าเอง ทุกขั้นตอนตั้งแต่การส่งเอกสาร การประเมิน จนถึงการนัดทำสัญญาที่สำนักงานที่ดิน สามารถเริ่มต้นจากออนไลน์ได้ทั้งหมด

เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่ต้องการเงินด่วนภายใน 1–3 วัน
  • เจ้าของทรัพย์ที่อยู่ไกล ไม่สะดวกเดินทาง
  • ผู้ที่ต้องการเลี่ยงการถูกกดราคาโดยนายทุนทั่วไป
  • คนที่ต้องการความโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีหลักฐานครบถ้วน

 

ขายฝากออนไลน์ ปลอดภัยไหม?

ความเสี่ยงที่คนส่วนใหญ่กลัว

  • กลัวถูกโกง หรือโดนยึดบ้านฟรี
  • กลัวสัญญาไม่แฟร์ หรือมีช่องโหว่
  • กลัวถูกใช้ข้อมูลส่วนตัวไปในทางไม่ถูกต้อง

 

จะรู้ได้ยังไงว่าแหล่งไหนไว้ใจได้?

  • บริษัทมีเว็บไซต์/ชื่อจดทะเบียนที่ตรวจสอบได้
  • มีรีวิวจากผู้ใช้งานจริง หรือมีเคสที่เป็นตัวอย่างชัดเจน
  • อธิบายสัญญาชัดเจน และจดทะเบียนถูกต้องที่สำนักงานที่ดิน
  • ไม่มีนัดเซ็นสัญญาที่บ้าน / ไม่มีเรียกเก็บเงินล่วงหน้าโดยไม่มีเอกสาร

 

ขั้นตอนขายฝากออนไลน์ (สำหรับผู้เริ่มต้น)

สรุปทำธุรกรรมขายฝากออนไลน์ได้อย่างไร?

แม้จะเรียกว่า “ออนไลน์” แต่กระบวนการจริงจะจบลงที่สำนักงานที่ดิน เพื่อความถูกต้องตามกฎหมาย ขั้นตอนเริ่มต้นสามารถทำผ่านช่องทางดิจิทัลได้ทั้งหมด เช่น LINE, เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน โดยการทำธุรกรรมจริงจะมีเจ้าหน้าที่นัดวันจดทะเบียน และคุณจะได้รับเงินในวันเดียวกันหลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนกับกรมที่ดิน

ขั้นตอนทั่วไป

  1. ส่งรูปโฉนด และรายละเอียดทรัพย์ผ่าน LINE หรือเว็บไซต์ของบริษัท
  2. เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และเสนอวงเงินเบื้องต้น
  3. นัดตรวจสอบทรัพย์ หรือนัดวันทำสัญญา (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละราย)
  4. ทำสัญญาที่สำนักงานที่ดิน พร้อมรับเงินทันทีหลังจดทะเบียน

 

เอกสารที่ใช้มีอะไรบ้าง?

  • สำเนาโฉนดหน้าแรกและหลัง
  • สำเนาบัตรประชาชน
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • เอกสารแสดงความเป็นเจ้าของอื่น ๆ (ถ้ามี)

📌 เคล็ดลับ: ยิ่งเอกสารครบตั้งแต่ต้น การอนุมัติก็ยิ่งเร็ว และไม่ต้องส่งข้อมูลซ้ำหลายรอบ อ่านข้อกฎหมายและขั้นตอนการจดทะเบียนขายฝาก ได้ที่ กรมที่ดิน 

 

ข้อควรระวังก่อนตัดสินใจขายฝากออนไลน์

  • อย่าทำสัญญาหรือโอนเอกสารให้กับบุคคลที่ไม่มีหลักแหล่ง
  • อย่าหลงเชื่อคำพูดว่า “ไม่ต้องไปที่ดินก็ได้” เพราะการจดทะเบียนขายฝากต้องทำที่สำนักงานที่ดินเท่านั้น
  • เปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายแหล่ง เพื่อให้ได้วงเงินสูง ดอกเบี้ยเหมาะสม และเงื่อนไขไถ่ถอนยุติธรรม

 

สรุปขายฝากออนไลน์เหมาะกับคุณหรือไม่?

ถ้าคุณมีบ้านหรือที่ดิน และต้องการเงินก้อนด่วน โดยไม่อยากเสียเวลาหานายทุนเอง  การขายฝากออนไลน์อาจเป็นทางออกที่เร็ว ปลอดภัย และสะดวกที่สุดในยุคนี้

แต่ก่อนตัดสินใจ อย่าลืมตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการ อ่านสัญญาให้ครบทุกบรรทัด และเก็บหลักฐานทุกขั้นตอน เพื่อความมั่นใจว่าทรัพย์ของคุณจะยังอยู่ในมือคุณ จนกว่าจะพร้อมไถ่ถอนกลับมาได้ตามสัญญา

หากคุณยังมีข้อสงสัย หรืออยากปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราพร้อมให้คำแนะนำเบื้องต้น โดยไม่มีค่าใช้จ่าย 

 

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: ขายฝากออนไลน์ใช้เวลานานไหม?

A: หากเอกสารครบ เช่น โฉนด บัตรประชาชน และรายละเอียดทรัพย์ พร้อมส่งผ่านออนไลน์ได้ทันที และทรัพย์อยู่ในพื้นที่ที่บริษัทให้บริการ กระบวนการทั้งหมดอาจใช้เวลาเพียง 1–3 วันทำการในการนัดจดทะเบียนและรับเงิน

Q: ถ้าอยู่ต่างจังหวัด ขายฝากกับบริษัทในกรุงเทพได้ไหม?

A: ได้ บริษัทที่มีความน่าเชื่อถือส่วนใหญ่มีทีมงานหรือเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ และสามารถนัดทำสัญญาที่สำนักงานที่ดินใกล้คุณได้ ไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้ากรุงเทพ

Q: ไม่มีรายได้ประจำ หรือเป็นแม่บ้าน ขายฝากได้ไหม?

A: ได้ เพราะขายฝากพิจารณาจากมูลค่าทรัพย์สิน ไม่ได้ใช้รายได้หรือสลิปเงินเดือนในการอนุมัติ ผู้ที่มีทรัพย์และเอกสารถูกต้องสามารถขอขายฝากได้

Q: จะไถ่ถอนก่อนครบกำหนดได้ไหม?

A: ได้ในหลายกรณี ขึ้นอยู่กับสัญญาที่ตกลงไว้ บางบริษัทไม่มีค่าปรับหากไถ่ถอนก่อนกำหนด แนะนำให้สอบถามเงื่อนไขล่วงหน้าและขอสำเนาสัญญาอ่านก่อนตัดสินใจ

 

อ่านเพิ่มเติม

กรมที่ดินได้พัฒนาระบบ กรมที่ดินออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเข้าถึงข้อมูล

ค้นหาที่ดินของตัวเองง่ายๆ ด้วย App LandsMaps และ Google Earth