“การโอนที่ดิน” เป็นขั้นตอนสำคัญทางกฎหมายที่ต้องทำต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดินเท่านั้น เพื่อเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองที่ดิน ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขาย จำนอง ขายฝาก มอบให้ทายาท หรือโอนให้คู่สมรส ล้วนต้องปฏิบัติตามขั้นตอนและเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน
การโอนที่ดินคืออะไร
การโอนที่ดิน คือ การเปลี่ยนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองที่ดินจากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่งอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยต้องทำต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดิน และมีการบันทึกการเปลี่ยนแปลงลงในโฉนดที่ดินเพื่อให้มีผลตามกฎหมาย
การโอนที่ดินสามารถเกิดขึ้นได้หลายกรณี ได้แก่
- การซื้อขาย – เป็นการโอนโดยมีค่าตอบแทนเป็นเงิน ผู้ซื้อจ่ายเงินให้ผู้ขาย และผู้ขายโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้ซื้อ
- การให้ – การโอนโดยไม่มีค่าตอบแทน มักเกิดขึ้นในครอบครัว เช่น พ่อแม่ให้ลูก หรือคู่สมรสให้กัน
- การแลกเปลี่ยน – การโอนโดยแลกกับทรัพย์สินอื่น เช่น แลกที่ดินกับที่ดิน หรือที่ดินกับอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่น
- การรับมรดก – การโอนจากเจ้าของเดิมที่เสียชีวิตไปยังทายาทตามพินัยกรรมหรือกฎหมายมรดก
- การจำนองหรือขายฝาก – การโอนสิทธิหรือกรรมสิทธิ์บางส่วนเพื่อใช้เป็นหลักประกันในการกู้ยืมหรือทำธุรกรรมทางการเงิน
ค่าใช้จ่ายในการโอนที่ดินมีอะไรบ้าง
ในการโอนที่ดิน นอกจากการเตรียมเอกสารและทำตามขั้นตอนทางกฎหมายแล้ว อีกสิ่งที่ผู้โอนและผู้รับโอนต้องคำนึงถึงคือ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ณ สำนักงานที่ดิน ซึ่งมีทั้งค่าธรรมเนียมและภาษีต่าง ๆ ที่กำหนดโดยกฎหมาย การรู้ล่วงหน้าว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างและคิดอย่างไร จะช่วยให้สามารถวางแผนการเงินได้ถูกต้องและไม่มีปัญหาในวันที่ไปโอนจริง
รายละเอียดค่าใช้จ่ายในการโอนที่ดินมีดังนี้
1.ค่าธรรมเนียมโอนที่ดิน 2%
เป็นค่าใช้จ่ายหลักในการเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ คิดตามอัตราร้อยละ 2 ของราคาประเมินทุนทรัพย์หรือราคาซื้อขายจริง แล้วแต่ว่าราคาใดสูงกว่าโดยในปี 2567 รัฐบาลได้ออกมาตรการปรับลดค่าธรรมเนียมการโอนเหลือเพียง 0.01% เฉพาะการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย ซึ่งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ซื้อได้อย่างมาก
2.ค่าอากรแสตมป์ 0.5%
เป็นค่าใช้จ่ายที่เก็บในอัตราร้อยละ 0.5 ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย แล้วแต่ว่าราคาใดสูงกว่า โดยจะใช้ในกรณีที่ไม่เข้าเงื่อนไขต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งค่าใช้จ่ายตามกฎหมายที่ต้องชำระในวันที่ทำการโอน
3. ค่าจดจำนอง 1%
ใช้ในกรณีที่มีการนำที่ดินไปเป็นหลักประกันการกู้ยืม เช่น การซื้อที่ดินด้วยเงินกู้จากธนาคารหรือสถาบันการเงิน คิดอัตราร้อยละ 1 ของวงเงินจำนอง และมีกำหนดเพดานสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท
4. ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3%
เป็นภาษีที่เก็บในอัตราร้อยละ 3.3 ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย ใช้กับกรณีที่ผู้ถือครองที่ดินมีระยะเวลาครอบครองไม่ถึง 5 ปี และไม่อยู่ในเงื่อนไขการยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด
5. ค่าภาษีเงินได้ หัก ณ ที่จ่าย
ผู้โอนหรือผู้ขายที่ดินจะต้องชำระภาษีเงินได้จากการทำธุรกรรมขาย โดยเจ้าหน้าที่กรมที่ดินจะดำเนินการหักภาษีในวันโอนกรรมสิทธิ์ อัตราภาษีจะอ้างอิงตามพระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 165) พ.ศ. 2529 และมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับมูลค่าที่ดินและระยะเวลาที่ครอบครอง
เอกสารที่ใช้ในการโอนที่ดิน
การโอนที่ดินจำเป็นต้องมีการยืนยันตัวตนและสิทธิความเป็นเจ้าของอย่างชัดเจน ซึ่งเอกสารที่ต้องใช้จะแตกต่างกันไปตามประเภทของผู้ทำธุรกรรม แบ่งออกเป็น 2 กรณี ดังนี้
1. บุคคลธรรมดา
ฝ่ายผู้ขาย/ผู้โอน
- โฉนดที่ดินฉบับจริง
- บัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริงและสำเนา)
- ทะเบียนบ้าน (ตัวจริงและสำเนา)
- หนังสือเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
- หนังสือยินยอมจากคู่สมรส พร้อมสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของคู่สมรส (ในกรณีสมรส)
- ทะเบียนหย่า (ถ้ามีการหย่าร้าง)
- หนังสือมอบอำนาจ (แบบ ทด.21) หากไม่สามารถมาดำเนินการด้วยตนเอง พร้อมสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับอำนาจ
ฝ่ายผู้ซื้อ/ผู้รับโอน
- บัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริงและสำเนา)
- ทะเบียนบ้าน (ตัวจริงและสำเนา)
- หนังสือเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
- หนังสือมอบอำนาจ (แบบ ทด.21) ในกรณีมอบหมายให้ผู้อื่นดำเนินการแทน พร้อมสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับอำนาจ
2. นิติบุคคล
- หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (อายุไม่เกิน 1 เดือน)
- บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (อายุไม่เกิน 1 เดือน)
- สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม
- รายงานการประชุมที่มีมติอนุมัติการซื้อหรือขายที่ดิน
- ตัวอย่างลายมือชื่อของกรรมการผู้มีอำนาจ
- หนังสือมอบอำนาจ (แบบ ทด.21) หากไม่ได้มาดำเนินการด้วยตนเอง พร้อมสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับมอบ
ขั้นตอนการโอนที่ดิน
หลังจากที่รู้แล้วว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง หลายคนอาจยังสงสัยว่าขั้นตอนการโอนที่ดินจะต้องทำอย่างไร ต้องเจอกระบวนการซับซ้อนหรือไม่ จริง ๆ แล้วขั้นตอนเหล่านี้ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด หากเตรียมเอกสารครบและทำตามลำดับ ก็สามารถดำเนินการได้รวดเร็วและเสร็จสิ้นภายในวันเดียว
ขั้นตอนการโอนที่ดิน
1.กรอกแบบฟอร์มและยื่นเอกสาร กรอกแบบคำขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม พร้อมยื่นเอกสารทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้อง
2.รับบัตรคิวและรอเรียกคิว เมื่อรับบัตรคิวแล้ว รอจนถึงคิวของตนเอง จากนั้นผู้โอนและผู้รับโอนจะต้องลงลายมือชื่อในเอกสารต่อหน้าเจ้าหน้าที่
3.เจ้าหน้าที่ประเมินค่าใช้จ่าย เจ้าหน้าที่จะประเมินราคาที่ดิน ค่าธรรมเนียมโอน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ พร้อมออกใบคำนวณค่าใช้จ่ายให้เรียบร้อย
4.ชำระเงินที่ฝ่ายการเงิน นำใบคำนวณไปชำระค่าโอนที่ดินกับฝ่ายการเงิน และรับใบเสร็จรับเงินทั้งสีฟ้าและสีเหลืองไว้เป็นหลักฐาน
5.เจ้าหน้าที่พิมพ์สลักหลังโฉนด หลังจากชำระเงิน เจ้าหน้าที่จะพิมพ์สลักหลังโฉนดที่ดินและมอบให้ผู้รับโอนตรวจสอบความถูกต้อง พร้อมส่งมอบโฉนดและสัญญาซื้อขาย (ทด.13) ถือเป็นการเสร็จสิ้นขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์
โอนที่ดิน สามารถทำได้ที่ไหนบ้าง?
การโอนซื้อขายที่ดินต้องเตรียมเอกสารให้ครบ และไปดำเนินการที่สำนักงานที่ดินซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ที่ดินตั้งอยู่ ไม่ว่าจะเป็น สำนักงานที่ดินจังหวัด หรือสำนักงานที่ดินอำเภอ ทั้งนี้ ผู้โอนและผู้รับโอนจำเป็นต้องเซ็นเอกสารต่อหน้าเจ้าหน้าที่ เพื่อยืนยันตัวตนและให้การจดทะเบียนโอนมีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย
ข้อควรระวังในการโอนที่ดิน
แม้ว่าการโอนที่ดินจะเป็นขั้นตอนตามกฎหมายที่มีความชัดเจน แต่หากไม่ตรวจสอบรายละเอียดให้รอบคอบ อาจเกิดปัญหาภายหลังได้ ดังนั้นควรคำนึงถึงข้อควรระวังต่อไปนี้
- ตรวจสอบความถูกต้องของโฉนดที่ดิน
ตรวจสอบว่าที่ดินไม่มีการปลอมแปลง ไม่มีภาระผูกพัน เช่น จำนอง ขายฝาก หรือถูกอายัด เว้นแต่จะดำเนินการปลดภาระในวันโอน - ยืนยันตัวตนและสิทธิ์ในที่ดิน
ทั้งผู้โอนและผู้รับโอนควรแสดงตนด้วยเอกสารตัวจริง เพื่อป้องกันการแอบอ้างหรือการปลอมเอกสาร - ตรวจสอบราคาประเมินและค่าใช้จ่ายล่วงหน้า
ควรเช็กราคาประเมินที่ดินกับกรมธนารักษ์ รวมถึงค่าธรรมเนียมและภาษีที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมงบประมาณให้พร้อม - ทำธุรกรรมต่อหน้าเจ้าหน้าที่เท่านั้น
การลงนามเอกสารต้องทำต่อหน้าเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดิน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย - เก็บเอกสารสำคัญไว้เป็นหลักฐาน
หลังการโอน ควรเก็บโฉนดฉบับใหม่ ใบเสร็จรับเงิน และเอกสารประกอบการโอนไว้อย่างปลอดภัย เผื่อใช้เป็นหลักฐานในอนาคต
สรุปภาพรวมของการโอนที่ดิน
การโอนที่ดินเป็นขั้นตอนทางกฎหมายที่สำคัญ ซึ่งหากเตรียมเอกสารครบ ตรวจสอบข้อมูลล่วงหน้า และทำตามขั้นตอนที่สำนักงานที่ดินกำหนด ก็สามารถดำเนินการได้ง่ายและเสร็จสิ้นภายในวันเดียว การรู้รายละเอียดเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย เอกสารที่ต้องใช้ และข้อควรระวัง จะช่วยให้การโอนราบรื่น ปลอดภัย และลดความเสี่ยงของปัญหาในอนาคต
นอกจากการโอนที่ดินเพื่อซื้อขายหรือมอบให้กันแล้ว หลายคนอาจต้องการใช้ที่ดินเป็นหลักประกันเพื่อขอสินเชื่อ หรือทำธุรกรรมด้านการเงิน การเลือกผู้ให้บริการที่มีความน่าเชื่อถือจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณกำลังมองหาที่ปรึกษาด้าน จำนองหรือขายฝากที่ดิน ที่ให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพ ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย และพร้อมดูแลทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มจนถึงวันไถ่ถอน ทีมงานของเรายินดีให้บริการและช่วยวางแผนการทำธุรกรรมให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณ
ติดต่อทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่…
โทร : 061-895-4469
Line OA : (@kaifakcoachtae) หรือ คลิกที่นี่
Q&A: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ “การโอนที่ดิน”
การโอนที่ดินใช้เวลานานไหม ?
หากเอกสารครบถ้วนและไม่มีขั้นตอนเพิ่มเติม การโอนที่ดินมักใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง และสามารถเสร็จสิ้นภายในวันเดียว
ไม่สะดวกไปโอนที่ดินด้วยตนเอง ให้คนอื่นไปแทนได้ไหม ?
ได้ แต่ต้องใช้แบบฟอร์มมอบอำนาจ (ทด.21) พร้อมเอกสารของผู้มอบและผู้รับมอบครบถ้วน และเซ็นต่อหน้าเจ้าหน้าที่หรือรับรองลายมือชื่อ
โอนที่ดินต้องชำระค่าใช้จ่ายเป็นเงินสดเท่านั้นไหม ?
ไม่จำเป็น ปัจจุบันกรมที่ดินมีระบบชำระค่าธรรมเนียมและภาษีอากรทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านเครื่อง EDC ครอบคลุมทุกสำนักงานทั่วประเทศ สามารถชำระได้ด้วยบัตรเดบิต บัตรเครดิต หรือสแกนจ่ายผ่าน Mobile Banking ของทุกธนาคาร สะดวก ปลอดภัย ไม่ต้องใช้เงินสด
โอนที่ดินต้องนัดล่วงหน้าหรือสามารถไปได้เลย ?
ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละสำนักงานที่ดิน บางแห่งต้องจองคิวออนไลน์หรือโทรนัดล่วงหน้า เพื่อจัดการคิวและลดเวลารอ
การโอนที่ดินต่างสำนักงานใช้เวลานานกว่าปกติไหม ?
โดยทั่วไปจะใช้เวลามากกว่าการโอนในพื้นที่เล็กน้อย เนื่องจากต้องประสานงานและจัดส่งเอกสารระหว่างสำนักงาน